KBANK ซื้อหุ้นคืนได้ราคาถูก อัดเงินสู้ 2.5 พันลบ.รับมือแรงขายไม่ไหว

HoonSmart.com>>นักลงทุนเทกระจาดหุ้น 3 แบงก์ใหญ่-ทหารไทย นักลงทุนหนีกำไรขาลง ผวาลดดอกเบี้ย 0.25% เดือนมี.ค. ธนาคารกสิกรไทยถูกทุบจมดินดิ่ง 9% ซื้อหุ้นคืนทุกวัน 14-25 ก.พ. ใช้เงิน 2,468 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 138 บาท/หุ้น ห่างจากเป้าของบอร์ดอนุมัติ 4,600 ล้านบาท

วันที่ 26 ก.พ. 2563 นักลงทุนพร้อมใจกันเทกระจาดหุ้นแบงก์ กดดัชนีกลุ่มร่วงไป 7.43% มูลค่าการซื้อขายกว่า 15,813 ล้านบาท นำโดยธนาคารทหารไทย (TMB) ลงหนักที่สุด 12.30% ปิดที่ 1.07 บาท ตามด้วย ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ราคาไหลลงไปปิดที่ 115.50 บาท ร่วง 12.50 บาท คิดเป็น 9.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขายถึง 4,534 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) รูดลง 7.73% ปิดที่ 86.50 บาท ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ติดลบ 7.25% ปิดที่ 128 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,021 ล้านบาท

ในวันเดียวกันมีการซื้อขายบิ๊กล็อต KBANK-Fจำนวน 2 ล้านหุ้น มูลค่า 247 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย120.51 บาท และ KBANK มีบิ๊กล็อต 9 แสนหุ้น มูลค่า 117 ล้านบาท

ธนาคารกสิกรไทยมีการซื้อหุ้นคืนทุกวัน แต่ต้านทานแรงขายไม่ไหว กดราคาหุ้นในตลาดไหลลงทุกวัน จนถึงวันที่ 25 ก.พ. ธนาคารซื้อหุ้นคืนแล้วทั้งสิ้น 17.80 ล้านหุ้น หรือ 0.74% ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นน 2,468 ล้านบาท คิดเป็นราคาเฉลี่ย 138.65 บาท/หุ้น  นับว่าใช้เงินน้อยกว่าคาด คณะกรรมการอนุมัติวงเงินถึง 4,600 ล้านบาทในการซื้อหุ้นจำนวน 23.93 ล้านหุ้น หรือ 1% ของทุนชำระแล้ว ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 192 บาท นับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2563 ถึงวันที่ 27 ก.พ.

” 27 ก.พ. 63 คาดว่าคงต้านแรงขายไม่ไหว เพราะมีปัจจัยลบเข้ามารบกวนมาก  จากกำไรอยู่ในช่วงขาลง  และกังวลว่าธปท.อาจจะจำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เหลือ 0.75% หลังจากเมื่อวันที่ 5 ก.พ. เพิ่งมีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1% ต่ำที่สุดในประวัติการณ์การเงินมาแล้ว  รวมถึงนักลงทุนมองเห็นราคาหุ้นแบงก์ขาลง จึงมีการขายออกล่วงหน้า(ชอร์ตเซล) ออกมามาก โดยเฉพาะหุ้น KBANKและSCB  มีสัดส่วนสูงกว่า 10% ของปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ”