SCB ทุ่ม 1.6 หมื่นลบ.ซื้อหุ้นคืน 4% เริ่ม 20 เม.ย.-19 ต.ค.นี้

HoonSmart.com>> บอร์ดแบงก์ไทยพาณิชย์ ไฟเขียวอัดงบ  1.6 หมื่นล้านบาท เดินหน้าซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์  135.96 ล้านหุ้น  ตั้งแต่ 20 เม.ย.-19 ต.ค.นี้ หวังสร้างความมั่นใจผู้ถือหุ้น ให้ราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง ด้านสภาพคล่องส่วนเกินและเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ระดับสูง

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยมติคณะกรรมการธนาคาร เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2563 อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของธนาคารเพื่อการบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 16,000 ล้านบาทและจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 135.96 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 4 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด  โดยเข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.2563-19 ต.ค.2563

เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการดูแลผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น ถึงสถานะทางการเงินและขีดความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแรงและพร้อมที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ประกอบกับธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินและเงินกองทุนขั้นที่ 1 ในระดับที่สูงมากที่จะสามารถสนับสนุนโครงการซื้อหุ้นคืนได้เพียงพอและเพื่อทำให้ราคาหุ้นในอนาคตสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของธนาคารได้

ด้านราคาหุ้น SCB ปิดตลาดอยู่ที่ 73.75 บาท -0.50 บาท หรือ -0.67% มูลค่าการซื้อขาย 1,520.42 ล้านบาท

ธนาคารไทยพาณิชย์นับเป็นธนาคารแห่งที่ 4 ที่เปิดโครงการซื้อหุ้นคืน โดยธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เพิ่งปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถซื้อหุ้นได้ทั้งหมด 23,932,600 หุ้น คิดเป็น 1% ตามเป้าหมาย แต่ใช้เงินลงทุนประมาณ 3,207 ล้านบาท ต่ำกว่าวงเงินที่บอร์ดอนุมัติไว้ไม่เกิน 4,600 ล้านบาท

ส่วน บริษัท ทุนธนชาต(TCAP)  และบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) กำลังดำเนินการซื้อหุ้นคืน  ล่าสุด วันที่ 11 มี.ค. TCAP ซื้อจำนวน 8.11 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 47.50-49 บาท เป็นเงิน 392 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันซื้อคืนแล้ว 82 ล้านหุ้น หรือ 7.09% ใช้เงินทั้งสิ้น 4,291 ล้านบาท และ LHFG ซื้อคืนจำนวน 2.96 ล้านหุ้น ราคา 1.21-1.24 บาท เป็นเงิน 3.63 ล้านบาท มียอดซื้อหุ้นคืนแล้ว 231 ล้านหุ้น หรือ 1.09% ใช้เงินลงทุน 301 ล้านบาท ขณะที่บอร์ดอนุมัติโครงการซื้อคืนจำนวน 600 ล้านหุ้นหรือ 2.83%