CK คาดรายได้หดเหลือ 2 หมื่นลบ. STEC หวัง 3.6 หมื่นลบ.-งานในมืออื้อ

HoonSmart.com>>หุ้นรับเหมาฯร่วงลงแรงกว่าตลาด กลัวกำไรปีนี้หดตัว ช.การช่างยอมรับรายได้แค่ 2 หมื่นล้านบาท ลดลงประมาณ 30%จากปีก่อนทำได้ 2.6 หมื่นล้าน งานในมือเหลือเพียง 3 หมื่นล้านบาท กลัวงานใหม่ไม่เข้า ส่วน ซิโน-ไทยฯ ไปได้สวย รับรู้รายได้ 3.6 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว 5-6% ควงพันธมิตรชนะประมูลหลายโครงการ

วันที่ 12 มี.ค. ราคาหุ้นรับเหมาก่อสร้างลงแรง  บริษัทช.การช่าง (CK) ทรุดถึง 20% หรือ 3.50 บาท ปิดที่ 14 บาท และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ปิดที่ 11.30 บาท ร่วง 2.60 บาทหรือ 18.71% บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ปิดที่ 0.92 บาท รูดลง 0.18 บาทหรือ 16.36% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลง 10.80 % หรือ 134.98 จุด ปิดที่ 1,114.91 จุด

นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานปฏิบัติการ บริษัท ช.การช่าง (CK) เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้ 2 หมื่นล้านบาท ลดลงประมาณ 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.6 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) เหลืออยู่กว่า 3 หมื่นล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 1 ปีเศษเท่านั้น

บริษัทเพิ่งได้งานก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มูลค่างานประมาณ3,000-4,000 ล้านบาท ส่วนงานที่เตรียมเข้าร่วมประมูลในปีนี้ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท สำหรับงานภาครัฐยังชะลอต่อเนื่องจากงบประมาณล่าช้า

ด้านนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดจะรับรู้รายได้ 3.6 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 3.2 หมื่นล้านบาท จากงานในมือ (Backlog) มูลค่า 9 หมื่นล้านบาทที่ทยอยรับรู้รายได้ 4 ปี เป็นงานโรงไฟฟ้าในสัดส่วน 15-20% บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ใกล้เคียงกับปีก่อนระดับ 5-6% เพราะยังมีงานก่อสร้างรัฐสภาที่ล่าช้ามา ไม่มีกำไร และได้ตั้งสำรองไว้หมดแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าปลายปีนี้จะก่อสร้างเสร็จ

นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีงานใหม่ 4 หมื่นล้านบาท จากงานประมูลภาครัฐที่จะออกมา 2-3 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงานที่บริษัทชนะประมูลแล้ว ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท คาดจะรับรู้งานก่อสร้างกว่า 2 หมื่นล้านบาทในเฟสแรกที่จะรองรับจำนวนผู้โดยสาร 12 ล้านคน โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี และ สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีมูลค่างานก่อสร้างราว 5,000-6,000 ล้านบาท นอกจากนี้มีงานก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีชมพูที่ไปเมืองทองธานี มูลค่างานก่อสร้าง 2,500 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทจะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บริษัทร่วมประมูลกับบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บริษัท ราชกรุ๊ป (RATCH) และยังได้เจรจาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ 1-2 ราย เข้าร่วมประมูลด้วย ทั้งนี้คาด TOR จะออกมาช่วงกลางปี 63 ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก กลุ่มบีบีเอส(STEC ถือหุ้น 20%)คาดว่าเจรจากับกองทัพเรือเสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้ และลงนามในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้