ดาวโจนส์ปิดดิ่งหนักเกือบ 3,000 จุด

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ดิ่งแรง 12.93% หลังใช้ Circuit Breaker ครั้งที่ 3 เฟดลดดอกเบี้ยฉุกเฉินอีกรอบ ถึง 1% มาที่ 0%กลับมาใช้คิวอี  กลัวเศรษฐกิจถดถอย 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ปิดตลาดวันที่ 16 มีนาคม 2563 ที่ 20,188.52 จุด ลดลง 2,997.10 จุด หรือ 12.93%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,386.13 จุด ลดลง 324.89 จุด, -11.98%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,904.59 จุด ดิ่งลง 970.28 จุด, -12.32%

นับเป็นการลดลงมากที่สุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่เหตุการณ์หุ้นตกในวันจันทร์ปี 1987 หรือแบล็คมันเดย์ ซึ่งขณะนั้นหุ้นตกภายในวันเดียว 22% และเป็นครั้งที่สามที่หุ้นตกมากที่สุดภายในหนึ่งวัน นับจากหุ้นตกเดือนตุลาคม 1929 และแบล็คมันเดย์ ปี 1987

ดัชนี S&P 500 ลดลง 12% ลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2018

ตลาดร่วงลงหนักตั้งแต่เปิดการซื้อขายส่งผลให้มีการใช้ Circuit Breaker พักการซื้อขาย 15 นาที หลังจากดัชนี S&P 500 ลดลงมา 8% และเป็นการใช้ Circuit Breaker ครั้งที่ 3 ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยฉุกเฉินอีกรอบในเวลาเพียง 2 สัปดาห์โดยลดลง 1% มาที่ 0% และเป็นการลดก่อนการประชุมที่กำหนด พร้อมกับนำมาตรการ QE กลับมาใช้ด้วยการซื้อพันธบัตร 700 พันล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าการระบาดที่รวดเร็วของไวรัสจะมีผลให้เศรษฐกิจโลกชะงักและกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

นอกจากนี้นักลงทุนเกรงว่า การดำเนินนโยบายการเงินอาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส และมองว่าทำเนียบขาวดำเนินการช้าในการสกัดการระบาดของไวรัส อีกทั้งวิตกมากขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ประชาชนงดกิจกรรมทางสังคมเป็นเวลา 15 วันและไม่รวมตัวกันเกิน 10 คนขึ้นไป ตลอดจนยังระบุว่า เศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

นักวิเคราะห์หลายรายเริ่มมองว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบเต็มๆต่อเศรษฐกิจ

ไนกี้ อันเดอร์อาร์เมอร์ และบริษัทอื่นประกาศจะปิดร้านในสหรัฐและในตลาดอื่นๆ

หุ้นเอเอ็มซี เอนเตอร์เทนเมนท์ โฮลดิ้งส์ โรงภาพยนตร์ใหญ่สุดของสหรัฐ ลดลง 19.3% หุ้นซีเนมาร์ค โฮลดิ้งส์ ลดลง 31% หลังรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นได้สั่งปิดโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร บาร์

หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ลดลง 14.8% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 11.25% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ลดลง 6.6% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ลดลง 9.06% ขณะที่ Airlines for America กลุ่มล็อบบี้ตัวแทนสายการบินโดยสารของสหรัฐและสายการบินคาร์โกจำนวน 10 สายการบิน เรียกร้องรัฐบาลอนุมัติความช่วยเหลือวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่อุตสาหกรรมการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 9.5% หลังเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ลง 1 ขั้น จาก AA+ เป็น AA จากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงอีก

หุ้นแอปเปิลดลลง 12.9% หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาและหุ้น เจพี มอร์แกนต่างลดลงมากกว่า 14%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงแรง นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการลดลง 10% หลังหลายประเทศใช้มาตรการหนักในการสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการปิดประเทศ และปิดพรมแดน เช่น สเปนที่สั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้านเป็นเวลา 15 วัน และประกาศภาวะฉุกเฉิน เยอรมนีและฝรั่งเศสปิดพรมแดน

ขณะเดียวกัน ประธานคณะกรรมธิการสหภาพยุโรปเสนอที่จะสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าเป็นเวลา 30 วัน

นักลงทุนไม่ขานรับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,151.08 จุด ลดลง 215.03 จุด, -4.01%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 284.63 จุดลดลง 14.53 จุด, -4.86%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,881.46 จุด ลดลง 236.89 จุด, -5.75%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,742.25 จุด ลดลง 489.83 จุด, -5.31%

หุ้นแอร์ฟรานซ์เคแอลเอ็มลดลง 10% หุ้นอีซีเจ็ตลดลง 19%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 3.03 ดอลลาร์ หรือ 9.6% ปิดที่ 28.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 3.80 ดอลลาร์ หรือ 11.2% ปิดที่ 30.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล