GULF เดินหน้าลงทุนตามแผน ไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็น

HoonSmart.com>กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ยันไม่ได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 การใช้ไฟฟ้ายังคงมีต่อเนื่อง   เดินหน้าตามแผนลงทุนทั้งในและต่างประเทศ บล.เอเซียพลัสเพิ่มคำแนะนำเป็น”ซื้อ” เป้าหมาย 162 บาท ราคาลงมามาก จุดเด่นเพียบ

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบรุนแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 เพราะกระทบถึงผู้ประกอบการรายเล็กด้วย สำหรับบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบ การใช้ไฟฟ้ามีต่อเนื่อง โรงงานอุตสาหกรรมยังคงเดินเครื่องผลิตเช่นเดิม แม้บริษัทหลายแห่งให้พนักงานทำงานอยู่กับบ้าน และสนับสนุนให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัย แต่ก็ยังคงต้องใช้ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันบริษัทยังเดินหน้าลงทุนทั้งในและต่างประเทศตามแผนงานที่กำหนดไว้ แต่อาจปรับรูปแบบการทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในช่วงนี้ เช่น การติดต่อกับต่างประเทศจะใช้วิธีสื่อสารผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ส่วนการร่วมลงทุนในโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3  จะมีการเจรจากับภาครัฐว่าจะต้องปรับแผนหรือไม่ แต่เชื่อว่าโครงการคงไม่เลื่อนออกไป  ในต่างประเทศ ยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผน เนื่องจากโครงการลงทุนของบริษัทเป็นโครงการระยะยาว

บล.เอเซียพลัส เพิ่มคำแนะนำหุ้น GULF เป็น “ซื้อ” จาก”ขาย”   มูลค่าเหมาะสม 162 บาท หลังจากราคาหุ้นปรับฐานจนเริ่มน่าสนใจ upside สูงกว่า 18% โดยมีจุดเด่นหลักๆ เช่น การมีกำลังการผลิตในมือ 7,900 เมกะวัตต์(MW) แต่มีเพียง 2,700 MW เท่านั้นที่ COD แล้ว ยังเหลืออีก 5,000 MW หรือกว่า 1.9 เท่าที่มีแผนทยอย COD ส่งผลให้ทิศทางกำไร 8 ปีข้างหน้า (2563-2570) คาดเติบโตทำ New High ทุกปีเฉลี่ยต่อปี 20%

นอกจากนี้โรงไฟฟ้า GULF ทุกโรงค่อนข้างใหม่ มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงมีการทยอยเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้อายุสัญญา PPA ยังเหลืออีกมาก และสามารถทำอัตรากำไรได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ   และ GULF กำลังศึกษาโครงการใหม่หลายโครงการ หากสำเร็จจะเป็นผลดีต่อประมาณการ อาทิ  โรงไฟฟ้าก๊าซฯ Ca Na เวียดนาม (รวม 6,000 MW), โรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาว (รวม 2,400 MW), โรงไฟฟ้า Hybrid ก๊าซฯ,โซลาร์,ลม ในโอมาน (1,000-2,000 MW)