SUPER ขายหุ้นกู้ 3.6 หมื่นล้าน ลดดอกเบี้ย ลุยลงทุน

“ซุปเปอร์บล๊อก” จัดโครงสร้างทางการเงินให้สมดุลกับแผนขยายธุรกิจ ระดมเงินจากหุ้นกู้ เดินหน้าตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ใส่เกียร์ ลุยโรงไฟฟ้าเต็มสูบ คาด ปี61 รายได้โตเกิน 25%

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติให้บริษัทฯออกและเสนอขายหุ้นกู้ 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ส่งผลดีต่อบริษัทช่วยบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ดีมากยิ่งขึ้น และขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและมั่นคงในการดำเนินธุรกิจในอนาคต

“เป้าหมายหลักในการออกหุ้นกู้ เพื่อปรับโครงสร้างการเงินและลดต้นทุนดอกเบี้ยลง เสริมสร้างกระแสเงินสดให้รองรับการขยายการลงทุนในอนาคต SUPER มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่งได้ รับการความไว้วางใจพร้อมที่จะสนับสนุนด้านสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เนื่องจากธุรกิจพลังงานทดแทนสามารถสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี “นายจอมทรัพย์กล่าว

ปัจจุบัน SUPER มีหลายโครงการที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาการเงินสะดุด เพราะสามารถบริหารจัดการเรื่องเงินลงทุนในโครงการต่างๆ เรียบร้อยหมดแล้ว เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ จะลงทุนก่อสร้างราว 8,500 ล้านบาท มีพันธมิตรจากประเทศจีนซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างด้วยจะเป็นผู้ทำ turn-key ทั้งหมด ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงทดแทนจากสิ่งปฏิกูลที่ไม่เป็นของเสียอันตราย กำลังการผลิตเสนอขาย 9.9เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสระแก้ว ใช้เงินลงทุนก่อสร้างราว 1,300 ล้านบาท และ มีเป้าหมายที่จะดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน 2561 นี้

“รายได้และกำไรในปี 2560 ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯมา SUPER สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีรายได้รวม 5,510.18 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 3,802.04 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,511.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,411.63% จากกำไรสุทธิ 361.62 ล้านบาท และในปี 2561 ได้วางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ” นายจอมทรัพย์กล่าว

ส่วนการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์) มูลค่า 9,000-10,000 ล้านบาท โดยมีธนาคารกรุงเทพ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ไม่มีแนวคิดล้มเลิกการจัดตั้งกองทุนแต่อย่างใด ขณะนี้รอเพียงความชัดเจนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ในเรื่องกฎเกณฑ์ใหม่ของการตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์

นอกจากนั้นบริษัทได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจพลังงานทดแทนที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และให้สอดคล้องกับแผนในการขยายการลงทุนออกไปสู่ต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียภายในปี 2563