หุ้นกู้ NOBLE ฝืด ตามรอย ANAN หุ้นอสังหาฯนิ่ง เมินยอดขายดีเกินคาด

HoonSmart.co>> ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหนื่อยอีกต่อไป 2 บิ๊กเนมขายหุ้นกู้ได้แค่ 30% ล่าสุดโนเบิลฯ ปิดดีลที่ 500 ล้านบาท จากเป้าหมาย 1,500 ล้านบาท ก่อนหน้า อนันดาฯต้องการ 4,000 ล้านบาทนักลงทุนซื้อ 1,169 ล้านบาท จับตาชาญอิสสระ เสนอขาย 1,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ท่ามกลางผู้ประกอบการกระพือข่าวดี ยอดขาย- ยอดโอนสูงเกินคาด แต่ปลุกความเชื่อมั่นไม่ฟื้น ราคาหุ้นอสังหาฯขยับช้า หลายตัวต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี จุดเด่นอัตราผลตอบแทนปันผลสูง บล.เอเชียเวลล์ แนะนำซื้อ NOBLE เป้าหมาย 17.50 บาท บิ๊กเมืองไทย แคปปิตอล เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ เสนอแนวคิดทบทวนเกณฑ์กองทุน BSF เปิดทางซื้อหุ้นกู้เรทติ้งต่ำกว่า Investment grade ป้องกันผิดนัดชำระ

อสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจ “ซื้อมา-ขายไป” ได้เงินมาซื้อที่ดินแล้วนำมาพัฒนาโครงการเพื่อขายออกไป วงจรธุรกิจเป็นเช่นนี้ ที่ผ่านมาหมุนเงินได้คล่องมือ แต่สถานการณ์ปัจจุบัน เศรษฐกิจฝืดเคือง ตลาดตราสารหนี้ขาดสภาพคล่อง เพราะนักลงทุนขาดความมั่นใจ ไม่ต่ออายุหุ้นกู้ของภาคเอกชนง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจที่เผชิญปัญหาเรื่องกำลังซื้อตกต่ำ จนทำให้สินค้าล้นตลาด ส่งผลต่อเนื่องถึงการออกตราสารรุ่นใหม่ เพื่อไถ่ถอนรุ่นเดิมไม่เต็มจำนวน โดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN ) เป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่เปิดขายหุ้นกู้แล้วได้น้อยกว่าจำนวนที่เสนอขาย 4,000 ล้านบาท มนักลงทุนจองซื้อจำนวน 1,169 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เพิ่งปิดการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 1,500 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ เปิดจองวันที่ 20-22 เม.ย.2563 นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทขายหุ้นกู้ได้จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คาดไว้แล้ว และไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง บริษัทมีกระแสเงินสดจำนวน 1,500 ล้านบาท จากยอดโอนที่ดีอยู่ และมีเครดิตไลน์กับสถาบันการเงินอีก มากกว่า 6,000 ล้านบาท ในช่วงปลายปีจะมีหุ้นกู้ครบกำหนดอีก 1,000 ล้านบาท คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น

” ในช่วงนี้ อัตราดอกเบี้ย MLR ลงไปเยอะ ถ้าเรารีไฟแนนซ์ ณ วันนี้เรากู้แบงก์ได้ถูกกว่า แต่มีผู้ถือหุ้นกู้บางกลุ่ม อยากให้เราออก เราก็ออกหุ้นกู้ชุดใหม่มาเสนอขาย แต่ก็บางคนที่อยากเก็บเงินสด ก็ไม่ได้สนใจที่จะซื้อหุ้นกู้ แม้ว่าเราให้ดอกเบี้ย 4.5% ต่อปีก็ตาม”

นายอรรถวิทย์ กล่าวถึงการดำเนินงานของบริษัทว่า ยังคงมั่นใจว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาทตามเป้า ผลดำเนินงานน่าจะถึงจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 สถานการณ์น่าจะดีขึ้นใน ไตรมาส 3 ถ้ามองระยะปานกลาง คนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ยังสนใจที่จะซื้อบ้านในเมืองไทย ย้ายเข้ามาเป็นบ้านหลังที่สอง และบริษัทโนเบิลฯ มีจุดแข็งเรื่องเครือข่ายต่างประเทศ ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาด 20% ปัจจุบันเอเย่นต์ยังคงทำงาน ขณะที่ลูกค้าคนจีนก็คุ้นเคยกับการออนไลน์ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าลูกค้าเกินครึ่งยังต้องการมาดูบ้าน ดูโครงการจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งบริษัทได้ให้บริการเช่นกัน

ส่วนโครงการใหม่ เดิมตั้งใจจะเปิด 1-2 โครงการ ในไตรมาส 1 และ2 แต่เลื่อนไปปลายปีได้ เพราะระหว่างนี้ก็ดำเนินการเรื่องขอใบอนุญาตและกว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในจังหวะเดียวกัน

นายอรรถวิทย์กล่าวว่า บริษัทเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสินค้าคงคลังมากเหมือนบริษัทอื่น และทรัพย์สินที่มีก็มีต้นทุนต่ำ ทำเลที่ทุกคนต้องการ เช่น เพลินจิต สุขุมวิท สีลม ไม่ได้เป็นแรงกดดันให้บริษัทต้องเร่งระบายของ ถือเป็นข้อดีที่ไม่ได้มาจากฐานที่สูง และบริษัทยังจ่ายเงินปันผลสูง ไม่ด้อยกว่าอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆที่ให้อัตราผลตอบแทน 6-10% ต่อปี ทั้งนี้บริษัทจะจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.20 บาทในเดือนพ.ค. คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 16% เทียบกับราคาปิดที่ 13.70 บาท

บล. เอเชีย เวลท์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น NOBLE ปรับลดราคาเป้าหมายลงจาก 23 บาท เหลือ 17.50 บาท/หุ้น คาดไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิ 354 ล้านบาท ลดลง 73%จากช่วงเดียวกันปีก่อนและลดลง 21% จากไตรมาส 4 ที่ผ่านมา จึงปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง 19% เหลือ 8,999 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 2.05 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 15.3%

ทางด้านบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท  อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี จ่ายทุก 3 เดือน เปิดจองซื้อ 27-29 เม.ย. 2563 แก่นักลงทุนสถาบันและหรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เสนอขายหุ้นกู้ในภาวะตลาดหุ้นสดใส ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นแรงและเร็ว เหนือ 1,200 จุด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดี ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างประกาศข่าวดี เรื่องผลการดำเนินงานไม่ได้แย่อย่างที่กังวล โดยบริษัทแสนสิริ (SIRI) ปรับเพิ่มยอดขายในไตรมาสที่ 2/2563 จากไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท ขยับเป็น 1.1 หมื่นล้านบาท และ 1.2 หมื่นล้านบาท หลังจากลูกค้าตอบรับ ‘แคมเปญผ่อน 24 เดือน’ หนุนยอดขายพุ่งทะลุ 4,200 ล้านบาท ใน 3 สัปดาห์ของไตรมาส 2 ปิดการขาย 2 โครงการ ดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต – เดอะ เบส เพชรเกษม

บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า ไตรมาสแรก จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดประมาณ 2,900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ 3,733 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 22% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังจะมีรายได้ต่อเนื่องเข้ามาในเดือนเมษายน พร้อมเตรียมวงเงินไว้แล้วเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนมิถุนายนนี้ พร้อมรุกการตลาดเต็มรูปแบบ ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ดีเดย์ 1 พ.ค.นี้

PF จัดแคมเปญคอนโดมิเนียม “อยู่ฟรีสูงสุด 30 เดือน” ซึ่งบริษัทจะช่วยผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ยให้แทน สูงสุด 30 เดือนแรก และมีส่วนลดให้อีกสูงสุด 2 ล้านบาท สำหรับโครงการแนวราบจะมีแคมเปญ “ปลอดดอก ออกต้น” ที่จะช่วยให้ลูกค้าคลายกังวลเรื่องการซื้อบ้าน ปลอดดอกเบี้ยนาน 1 ปี มี Cashback เพื่อใช้สำหรับผ่อนเงินต้นได้อย่างสบายอีก 50,000-500,000 บาท ขึ้นกับระดับราคาบ้าน และผ่อนต่ำสุดเพียงล้านละ 1,000 บาทในปีแรก และล้านละ 2,000 บาทในปีที่ 2 ซึ่งจะช่วยลดภาระการผ่อน

ด้านนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน ( BSF) วงเงิน 400,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองชั่วคราว สำหรับเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีคุณภาพดีมี Rating อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ Investment grade (กลุ่มระดับลงทุน) ต้องการเห็นการทบทวนแนวคิด โดยเฉพาะให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ในระดับที่ต่ำกว่า Investment grade (ต่ำกว่าระดับลงทุน) มากกว่า