ทรีนีตี้คาด PTT พลิกกำไร 1.5 หมื่นลบ. หยวนต้า-คิงส์ฟอร์ดยันไม่เด่น Q2/63

HoonSmart.com> นักวิเคราะห์ฟันธงปตท.มีกำไรไตรมาส 2  บล.ทรีนีตี้คาดเห็นบวก 15,000 ล้านบาท แต่ยังลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 25,000 ล้านบาท  สต๊อกช่วยได้มาก ส่วนบล.หยวนต้า-คิงส์ฟอร์ดแนะแค่เก็งกำไร ผลงานไม่โดดเด่นยังถูกปตท.สผ.ถ่วงต่อ  ราคาน้ำมันฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ วิเคราะห์หุ้นบริษัทปตท.(PTT)คาดแนวโน้มไตรมาส 2/2563 ฟื้นกลับมามีกำไรที่ราว 15,000 ล้านบาท จากธุรกิจธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี ซึ่งเชื่อว่าไตรมาสแรกขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว อยู่ในระหว่างการปรับประมาณการและคำแนะนำ หลังจากประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 12 พ.ค. นี้ ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2562 ปตท. มีกำไรสุทธิ 25,938 ล้านบาท

PTT รายงานผลขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าตลาดในปี 2544 เกิดจากบริษัทในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีขาดทุนรวม 32,331 ล้านบาท หลักๆจากขาดทุนสต๊อกจำนวนมาก โรงกลั่นมีค่าการกลั่นเฉลี่ยเพียง 0.84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาส 1/2562 ทำได้ 2.44 เหรียญสหรัฐ ไตรมาส 4/62 เท่ากับ 2.19 เหรียญสหรัฐ  และมีขาดทุนสต๊อกสูงถึง 9.02 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากส่วนต่างน้ำมันที่ลดลงโดยเฉพาะน้ำมัน jet และ เบนซิน

ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีกำไรที่ 9,601 ล้านบาท ลดลง 28%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 10% จากไตรมาส 4/2562 เป็นผลจากทั้งปริมาณและราคาขายที่ปรับลดลง หลังปิดซ่อมโรงแยกก๊าซ 5 จำนวน 20 วัน

ธุรกิจน้ำมันมีกำไรที่ 2,465 ล้านบาท ลดลง 50% จากระยะเดียวกันปีก่อน  เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 4/2562 โดยปริมาณขายเฉลี่ยลดลง 6% จากไตรมาส 1/2562 และลดลง 7% ไตรมาส 4/2562 จากผลของโควิด-19 แต่ที่กำไรดีขึ้นจากไตรมาส 4/2562 เนื่องด้วยราคาขายน้ำมันอากาศยานที่อิงราคาของเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้มาร์จิ้นดีขึ้น จากต้นทุนน้ำมันที่ลดลงอย่างเร็วในช่วงปลายไตรมาส

ธุรกิจสำรวจและผลิตฯ มีกำไร 16,596 ล้านบาท ลดลง 9%จากไตรมาส 1/2562 และลดลง 13% จากไตรมาส 4/2562 จากราคาขายที่อิงน้ำมันลดลงและปริมาณขายที่ลดลง

บล.หยวนต้า แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 33 บาท/หุ้น หลังจากไตรมาสแรกขาดทุนใกล้เคียงกับคาดการณ์ 1,300 ล้านบาท พลิกเป็นขาดทุนสุทธิครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2558

แนวโน้มไตรมาส 2 ยังไม่โดดเด่น เพราะธุรกิจต้นน้ำ (สำรวจ และผลิตปิโตรเลียม) ยังมีแนวโน้มถูกกดดันจากปริมาณขาย และราคาขายก๊าซที่ลดลง  ธุรกิจก๊าซ-น้ำมันยังถูกกดดันจากราคาขายที่ลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันเตา-ปิโตรเคมี และปริมาณขายมีแนวโน้มลดลงตามความต้องการใช้ก๊าซจากภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอลงตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และการปิดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซที่ 1 จำนวน 25 วันในช่วงเดือนมิ.ย.

เราเชื่อว่าราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เริ่มเห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันหลังหลายประเทศทยอยคลายการล็อกดาวน์ อุปทานยังมีแนวโน้มลดลงจากการผลิตของโอเปกพลัส และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงอย่างรวดเร็ว  แต่การฟื้นตัวของราคาน้ำมันจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอุปทานที่ล้นตลาดจำนวนมากในระยะสั้นได้

” คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 29% จากปี 2562 ด้วยมุมมองที่ประเมินว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความน่าสนใจของผลประกอบการจึงน่าจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังหนุนจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง ในระยะสั้นหุ้นโรงกลั่น-ปิโตรเคมีที่ได้ประโยชน์ภายใต้ราคาน้ำมันอยู่ระดับต่ำจะมีความน่าสนใจเข้าลงทุนมากกว่า “บล.หยวยต้าระบุ

บล.คิงส์ฟอร์ด แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 38 บาท/หุ้น และยังมีประเด็นบวกรออยู่จากการ Spin-off บริษัท PTTOR คาดไตรมาส 2/2563 พลิกกลับมากำไร  ผลการดำเนินงานหลักยังไม่โดดเด่นนัก การฟื้นตัวจะมาจาก Market GRM ที่ได้ประโยชน์ด้านต้นทุนน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นลดลง ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานโอเลฟินส์จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากปริมาณและราคาขายของธุรกิจ E&P ที่ลดลงตามความต้องการใช้ ขณะที่มาร์จิ้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ และธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ ยังคงต้องเผชิญราคาขายผลิตภัณฑ์อิงกับราคาปิโตรเคมีและน้ำมันเตายังทรงตัวในระดับต่ำ รวมถึงการปิดซ่อม GSP#1 (350MMscfd) ตามแผนเป็นเวลา 25 วัน (6-30 มิ.ย.)

บริษัทคาดว่าผลกระทบของโควิด-19 จะทำให้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติโดยรวมในปี 2563 ลดลงประมาณ 5-10% อย่างไรก็ดีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นในครึ่งปีหลังจะน้อยลง และคาดหวังว่าจะเห็นการฟื้นตัวของราคาผลิตภัณฑ์และ Market GIM ดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

” เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2563-2564 ลงจากเดิม -33% และ -20% อยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 40% และ 7.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ตามลำดับ สะท้อนแนวโน้มความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ลดลงในปี 2563 และการปรับปรุงประมาณการของบริษัทลูก ได้ทำไปก่อนหน้า”บล.คิงส์ฟอร์ดระบุ

ด้านราคาหุ้น PTT  ทรงตัวอยู่บริเวณ 35.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน สำหรับการซื้อขายเวลา  11.15 น. ของวันที่ 12 พ.ค. 2563

อ่านข่าว

นักวิเคราะห์ไม่ขายหุ้นกลุ่มปตท. ทรีนีตี้-ฟิลลิปชี้เป้า IRPC 3 บาท