CPALL ไตรมาส 1/63 กำไร 5.6 พันลบ. ลดลง 2%

HoonSmart.com>> “ซีพี ออลล์” ไตรมาส 1/63 กำไรสุทธิ 5,645 ล้านบาท ลดลง 2.15% จากงวดปีก่อน COVID-19 กระทบรายได้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อต่ำกว่าเป้า ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มจากมาตรฐานบัญชี TFRS 16

บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 กำไรสุทธิ 5,645.11 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.60 บาท ลดลง 2.15% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,769.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.61 บาท

กำไรสุทธิลดลงเป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อเติบโตในระดับต่ํากว่าเป้าหมาย รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจาก TFRS 16 จํานวน 308 ล้านบาท

ในงวดไตรมาส 1/2563 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 145,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.2% โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกจากสาขาใหม่ที่เปิดในรอบปีที่ผ่านมา และรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจศูนย์จําหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชําระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “สยามแม็คโคร”

อย่างไรก็ตามโควิด-19 ส่งผลกระทบทางลบต่อบริษัทและบริษัทย่อยตั้งแต่เดือนกุ.พ.และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคจากรัฐบาล

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้กำหนดประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจําปี 2563 ในวันที่ 16 ก.ค.2563 นอกจากนี้รับทราบการจัดตั้งบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท ได้แก่ 1) CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายกัมพูชา เพื่อดําเนินธุรกิจร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5,000 เหรียญสหรัฐ และ All Convenience Logistic Co.,Ltd เป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายกัมพูชา เพื่อให้บริการบริหารงานกิจการขนส่งสินค้าและกระจายสินค้า โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5,000 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้รับทราบมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทที่ให้หยุดพักชั่วคราวของโครงการสะสมหุ้นสําหรับพนักงาน (Employee Joint Investment Program – EJIP) เพื่อบรรเทาผลกระทบและความเดือดร้อนของพนักงานและครอบครัวจากสถานการณ์การแพร:ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่พนักงานจะต้องถูกหักเงินเดือนบางส่วนเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทตามโครงการ EJIP เป็นประจําทุกเดือน โดยจะหยุดพักเริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนพ.ค.2563 เป็นต้นไป

ด้านราคาหุ้น CPALL ปิดตลาดที่ราคา 73.50 บาท -0.50 บาท หรือ -0.68% มูลค่าการซื้อขาย 2,649.03 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมีรายการซื้อบิ๊กล็อตหุ้น CPALL จำนวน 3 รายการ จำนวน 5,994,400 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 73.28 บาท มูลค่าการซื้อขาย 439.24 ล้านบาท และมีบิ๊กล็อต CPALL-F จำนวน 1 รายการ จำนวน 10,514,600 หุ้น ราคาเฉลี่ย 73.44 บาทต่อหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 772.20 ล้านบาท