ACG กำไร 17.96 ลบ. Q1/63 ลุย FAST FIT รับมือ ศก.ชะลอตัว เตรียมเข้า SET

HoonSmart.com>>ออโตคอร์ป โฮลดิ้งโค้งแรกกำไรสุทธิแตะ 17.96 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12.6% จากยอดซ่อมของศูนย์บริการที่เปิดครบ 10 แห่ง รวมทั้งยอดขายรถรุ่นใหม่ในโครงการอีโค คาร์ เฟส 2 รุ่นแรก ลุยธุรกิจ FAST FIT ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ให้บริการซ่อมแซม บำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ สร้างรายได้เพิ่ม รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง (ACG ) ดำเนินธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ปัจจุบันมีบริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ จำกัด เป็นบริษัทแกน เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2563 (ณ สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2563) บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิเท่ากับ 15.95 ล้านบาท

สาเหตุที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดซ่อมของศูนย์บริการเติบโตได้ดีจากการเปิดสาขาครบ 10 แห่งและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยอดขายรถยนต์ช่วง 2 เดือนแรกที่ช่วยสนับสนุน จากการที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (“Honda”) เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชั่น 5 รถในโครงการอีโค คาร์ เฟส 2 รุ่นแรกของฮอนด้า ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯเป็นดีลเลอร์ จึงได้รับประโยชน์ในครั้งนี้

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ทั้งรายได้และความสามารถในการทำกำไรดีกว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 และถือว่าบริษัทฯ ยังสามารถรักษาการเติบโตได้เป็นอย่างดี  อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าขยายศูนย์บริการสาขาภูเก็ตที่ 3 เพื่อช่วยสนับสนุนยอดขายและยอดซ่อมบริการให้เติบโตขึ้น”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า เป้าหมายช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจ โดยบริษัทฯได้เริ่มรุกขยายไป ยังธุรกิจ FAST FIT ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ และให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ ภายในชื่อบริษัท ออโตคลิก บาย เอซีจี จำกัด (Autoclik By ACG Co.,Ltd.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เบื้องต้นบริษัทฯ มีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาท และจะนำร่องขยายสาขา 5 แห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะขอย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยขณะนี้มีคุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ลดข้อจำกัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงเป็นการช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับบริษัทฯ มากขึ้น