HoonSmart.com>>บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการใกล้ผ่านจุดแย่สุด ปีนี้เน้นลดต้นทุนคาดประหยัดได้ 2,000 ล้านบาท รายได้โตติดลบ 10-12% หยวนต้าประมาณการกำไรปกติที่ 8,441 ล้านบาท ลดลง 16% ใกล้เคียงบล.ฟินันเซียไซรัสคาด -15.2%
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มูลค่าเหมาะสม 20.50 บาท หลังจากผู้บริหารให้ข้อมูลแนวโน้มไตรมาส 2/2563 คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากในเดือน เม.ย-พ.ค. คนไข้ต่างชาติ (สัดส่วนราว 30% ของรายได้รวม) หายเกือบหมด ขณะที่คนไข้ไทยใช้บริการลดลง จากทั้งมาตรการล็อกดาวน์และความกลัวติดเชื้อ โควิด-19 คาดว่าจำนวนคนใช้บริการโดยรวมจะลดลงราว 30-40%
ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดว่าคนไข้จะกลับมาใช้บริการมากขึ้น จากภาครัฐเริ่มผ่อนปรนมาตรการจำนวนผู้ติดเชื่อเพิ่มในอัตราที่ลดลง บริษัทมีการปรับใช้กลยุทธ์ควบคุมค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เดือน มี.ค ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำได้ดี อาทิ การลดค่าใช้จ่าย ฝึกอบรม การลดพนักงานพาร์ทไทม์ ลดโอที การให้พนักงาน leave without pay ในช่วงเดือน เม.ย – พ.ค. และ เจรจาขอลดค่า minimum guarantee จากแพทย์ และลดค่าใช้จ่ายการตลาด ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะประหยัดต้นทุนได้ราว2,000 ล้านบาท หรือราว 3% ของรายได้ในปีนี้
“บริษัทปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้ จากเดิมมองโต 3-4% เป็น ติดลบ 10-12% และ EBITDA Margin คาดว่าจะอยู่ที่ราว 20% ลดลงจากเป้าเดิมที่ 22% แนวโน้มระยะกลางถึงยาวพยามเพิ่มสัดส่วนลูกค้าประกันมากขึ้น ขณะที่บทเรียนจากโควิดมองว่าประชาชนจะให้ความสนใจสุขภาพมากขึ้น คาดว่าค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อครัวเรือนจะเพิ่มมากขึ้น เป็นผลบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาล”
ส่วนผลกระทบ IFRS16 ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 20 ล้านบาท ทั้งปีประมาณผลกระทบราว 100 ล้านบาท
แนวโน้มไตรมาส 2 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่แย่สุดของปี โรงพยาบาลในเครือที่มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติสูง อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ สาขา พัทยา และภูเก็ต มีรายได้ หายไป 40-50% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่คาดว่าสถานการณ์ในครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นตัว ภาพรวมปี 2563 ประมาณการกำไรปกติที่ 8,441 ล้านบาท ปรับลดลง 16% หากบริษัทยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีตามเป้าที่วางไว้ มองว่ามี Upside risk ในการปรับเพิ่มประมาณการ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า การประชุมนักวิเคราะห์ โทนเป็นกลาง เบื้องต้นผู้บริหารคาดว่ารายได้ในปี2563 อาจติดลบ 10-15% (มากกว่าประมาณการของเรา -5% ) แต่บริษัทมีการจัดการด้านต้นทุน โดยคาดว่าในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือจะสามารถลดต้นทุนได้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อชดเชยรายได้ที่หดตัว ส่วนผู้ใช้บริการเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในเดือน พ.ค. หลังภาครัฐเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการ แต่ลูกค้าต่างชาติ Fly-in ยังต้องรอการเปิดน่านฟ้าและคาดใช้เวลาอีกซักระยะ โดยมองว่าจะเริ่มทยอยกลับมาในครึ่งปีหลัง ยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี -15.2% ยังคงราคาเหมาะสมที่ 23 บาทแนะคงคำแนะนำ “ซื้อ”
อ่านข่าว