ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 800 จุด จ้างงานดีกว่าคาด น้ำมันทะยาน 5%

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 3.15% การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. 2.75 ล้านตำแหน่งดีกว่าคาด เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในรอบ 81 ปี อัตราว่างงานลด  นักลงทุนมีความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว  แรงซื้อหุ้นสายการบิน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ 27,110.98 จุด เพิ่มขึ้น 829.16 จุด หรือ 3.15% จากข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมดีกว่าที่คาด และอัตราว่างงานลดลง ขณะที่ธุรกิจกลับมาดำเนินการหลังจากผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,193.93 จุด เพิ่มขึ้น 81.58 จุด,+2.62%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ ที่ 9,814.08 จุด เพิ่มขึ้น 198.27 จุด, +2.06%

กระทรวงแรงงานเผย การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่ง ฟื้นตัวจากที่ลดลง 20.7 ล้านตำแหน่งในเดือนเมษายน เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในรอบ 81 ปี ส่วนอัตราการว่างงานลดลงมาที่ 13.3% จาก 14.7% ในเดือนเมษายน ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าการว่างงาน  7.25 ล้านตำแหน่ง และอัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นเป็น 19.5% โดยMarket Watch

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความอ้างว่าเป็นผลงานของเขาที่ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอัดฉีดเงินเข้าระบบของรัฐบาล 3 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่รายงานงบดุลของธนาคารกลางเพิ่มขึ้นมาที่ 7.21 ล้านล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 3 มิ.ย. เนื่องจากการดำเนินมาตรการเยียวยาวผลกระทบจากการระบาดของไวรัส ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว จึงมีแรงซื้อในกุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจ

หุ้นสายการบินและหุ้นเรือสำราญเพิ่มขึ้น หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 11.1% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลนเพิ่มขึ้น 8.5%. หุ้นนอร์วีเจียนครูซไลน์และหุ้นคาร์นิวาลต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 14%และหุ้นโรยัลแคริบเบียนเพิ่มขึ้น 20.3%.

หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 11.5%

หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นก่อนการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในวัน 6 มิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะลดกำลังการผลิต โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 8.11%, หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 4.72%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางหลายประเทศ ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารและกลุ่มเดินทาง

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อนุมัติวงเงินเพิ่มเติมอีก 600 พันล้านยูโร สูงกว่าที่คาดและทำให้โครงการซื้อพันธบัตร( Pandemic Emergency Purchase Plan:PEPP) เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเป็น 1.35 ล้านล้านยูโร

ขณะเดียวกันการดำเนินมาตรการของธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษส่งผลให้งบดุลของทั้งธนาคารกลาง 3 แห่งรวมกันเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2007 เป็นมากกว่า 23 ล้านล้านดอลลาร์

ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ในอังกฤษลดลงมาที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่วิกฤติการเงิน ขณะที่ยอดค้าปลีกลดลง 18% ส่วนในเยอรมนีคำสั่งซื้อโรงงานลดลง 25.8%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,484.30 จุด เพิ่มขึ้น 142.86 จุด, +2.25%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 375.32 จุด เพิ่มขึ้น 9.07 จุด, +2.48%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,197.79 จุด เพิ่มขึ้น 185.82 จุด, +3.71%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,847.68 จุด เพิ่มขึ้น 417.12 จุด, +3.36%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 39.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.31 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 42.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล