GULF ซื้อโรงไฟฟ้าตปท.เกิน 1 ดีลปีนี้ รายได้โตกว่า 10%

HoonSmart.com>>กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ เดินหน้าซื้อ-ร่วมทุนโรงไฟฟ้าต่างประเทศ “สารัชถ์”ลั่นจบมากกว่า 1 ดีล ในปี 63 รายได้โตมากกว่า 10%  กลางปีขายหุ้นกู้ 1 หมื่นล้านบาท ลงทุนต่อยอด ปี 64 รายได้ 5 หมื่นล้านบาท กระโดดเป็น 1.4 แสนล้านบาทปี 68 

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศมากกว่า 1 โครงการ โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่มีโอกาสเติบโตสูง เช่น เวียดนาม รวมทั้งภูมิภาคเอเชีย และยุโรป รูปแบบมีทั้งการร่วมทุนมากกว่า 50%และเข้าซื้อกิจการ เพื่อให้รับรู้ผลการดำเนินงานได้ทันที และต้องหาโครงการใหม่เข้ามาเติมในช่วงปี 2563-2564

ส่วนผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากนัก บริษัทได้ปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้ และโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมีความคืบหน้าตามแผน  เช่น โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3, โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3  ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) คาดว่าจะมีการลงนามสัญญา PPP ในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น บริษัทยังคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แบบ Spot 1 ล็อต ปริมาณ 65,000 ตัน เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP)  ซึ่งบริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (shipper) ปริมาณ 3 แสนตันต่อปี เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้า SPP ของบริษัทจำนวน 19 โรง

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF กล่าวว่า บริษัทตั้งบลงทุนประมาณ 140,000 ล้านบาทในช่วง 5-6 ปีนี้  เพื่อลงทุนโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น โครงการ IPP 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าศรีราชา และโรงไฟฟ้าปลวกแดง รวม 5,300 เมกะวัตต์  กำหนดจ่ายไฟฟ้าตามแผนระหว่างปี 2564- 2567

บริษัทยังมีแผนเตรียมจะออกหุ้นกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาทในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ในระดับที่ต่ำ 1.51 เท่า สามารถระดมทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเพิ่มเติมได้ ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 จะเติบโตเป็น 5 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นแตะ 1.4 แสนล้านบาทในปี 2568