หุ้นขาลง ตื่นศก.หดตัว-8.1% หั่นกำไรบจ. โนมูระเชียร์ขาย ถือ 20%

HoonSmart.com>> ธนาคารแห่งประเทศไทยทุบหุ้นอีกแล้ว หั่นเป้าเศรษฐกิจปีนี้ลงพรวดเดียว -8.1% ทำนักลงทุนแตกตื่นทิ้งหุ้น ผสมโรงดาวโจนส์ล่วงหน้าทรุดเกือบ 300 จุด หุ้นยุโรปแดงเถือก -2.00% กังวลไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักรอบสอง บล.โนมูระพัฒนสินประเมินหุ้นพักตัว 1-2 เดือน เสี่ยงบจ.ถูกหั่นเป้ากำไรปี 63-64 ลงอีกระลอก แนะกลยุทธ์ถือสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นหลัก เหลือหุ้นแค่ 20-25%

 

น่าสงสัยและน่าติดตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หมกเม็ดข้อมูลอะไร ถึงกล้าตัดสินใจปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้หดตัวถึง-8.1% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 24 มิ.ย. 2563 หายไป 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนมี.ค.เพิ่งหั่นเป้าเหลือ-5.3% พลิกจากเดิมคาดขยายตัว 2.8% และเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2563 ธปท.เพิ่งประกาศนโยบายแปลกใหม่สำหรับเมืองไทย สั่งธนาคารพาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปีนี้ และงดซื้อหุ้นคืน ในระหว่างสั่งให้จัดแผนบริหารเงินกองทุนในช่วง 1-3 ปี

“ธปท.กำลังส่งสัญญาณเตือนภัยร้ายแรง NPLs กำลังระเบิดหรือป่าว ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะแรกแล้วไม่เพียงพอ ต่อด้วยระยะที่สอง หลังจากยาชาที่ให้ไว้หมดลง กลัวว่าธนาคารพาณิชย์จะรับมือไม่ไหว พลิกล็อกจากก่อนหน้านี้ธปท.ยืนยันว่าระบบธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่ง เงินกองทุนสูงถึง 18.9% หรือเตรียมความพร้อมเพื่ออะไร  ”

เศรษฐกิจปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัว-8.1% และส่งออกหดตัว -10.3% ในมุมมองของธปท. ดูแย่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับสถาบันชั้นนำ เช่น ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)คาด GDP ไทยจะหดตัว-6.5% สภาพัฒน์คาด-5%ถึง-6% ทางกระทรวงพาณิชย์คาดว่าส่งออกปีนี้จะหดตัว -5% แม้ว่าตัวเลขเดือนพ.ค.หดตัว -22.5% อยู่ที่ 16,278 ล้านดอลลาร์ฯ โตน้อยที่สุดในรอบ 130 เดือนก็ตาม

“ทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดไวรัส โควิด-19 กระทบต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงไทย ทั้งด้านตลาดการเงิน เศรษฐกิจ และสังคม ได้ลุกลามในหลายประเทศและมีแนวโน้มยืดเยื้อ จนต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าทั่วโลกหดตัวในหลายประเทศ กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าที่หดตัวสูง คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหดตัวราว 80% ในปีนี้ ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ การจ้างงาน ความเชื่อมั่น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนและภาคธุรกิจในวงกว้าง

แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะหดตัว 8.1% และจะกลับมาขยายตัวได้ 5.0% ในปี 2564 จากภาคการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัว และมีเม็ดเงินจากโครงการกระตุ้นการจ้างงานและการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี แนวโน้มของเศรษฐกิจในระยะถัดไปยังมีความไม่แน่นอนสูงและจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ มาตรการจ้างงานและการลงทุนของภาครัฐในด้านต่าง ๆ การปรับตัวของภาคธุรกิจและประชาชน และสถานการณ์โรคโควิด-19

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน (CNS) มองตลาดหุ้นไทยจะเข้าสู่ Mode การประเมินผลประกอบการระยะยาวใหม่ โดยมีความเสี่ยงต่อการหั่นกำไรต่อหุ้นในปี 2563-2564 ลงอีกระรอก เป็นปัจจัยถ่วงการลงทุนระยะนี้ ทำให้ตลาดเป็นช่วงของการพักตัวในระดับ 1-2 เดือน กลยุทธ์คงคำแนะนำถือหุ้นน้อย 20-25% ของพอร์ต และถือสินทรัพย์ปลอดภัย 75-80%

ด้านตลาดหุ้นวันที่ 24 มิ.ย. เปิดบวกตามตลาดต่างประเทศ ดัชนีขึ้นไปสูงสุดกว่า 9 จุด แต่กลับปิดเกือบต่ำสุดที่ 1,333.43 จุด -23.00 จุด หรือ -1.70% มูลค่าการซื้อขาย 60,885.82 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศขายอีก 3,589 ล้านบาท พอร์ตหลักทรัพย์ขาย 1,623 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทยซื้อ 4,058 ล้านบาท และสถาบันในประเทศซื้อ 1,154 ล้านบาท

ทั้งนี้แรงขายหุ้นออกมามากในช่วงบ่าย หลังแถลงผลการประชุมกนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% และปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้หดตัว -8.1% ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าทรุดลงเกือบ 300 จุด และตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงรงกว่า 2% ตามความกังวลโควิดระบาดรอบสองในหลายประเทศ และนำไปสู่การล็อกดาวน์เศรษฐกิจอีกครั้ง