PTT ลั่นจ่ายปันผลปี’ 63 ชัวร์ คาดกำไรต่ำกว่า 9.2 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>ปตท.คาดผลงานปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน รับผลกระทบจากโควิด-สงครามราคาน้ำมัน ลั่นจ่ายเงินปันผลแน่นอน แต่ผู้ถือหุ้นจะได้เท่าไร หรือมีปันผลกลางปีหรือไม่ รอลุ้น  บอร์ดให้โจทย์รักษาสภาพคล่อง  รักษาเครดิตเรทติ้ง  กลัวต้นทุนการเงินเพิ่ม PTT มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่จาก New Normal

นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. (PTT) กล่าวในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 วันที่ 3 ก.ค. ว่า ในปี 63 ผลการดำเนินงานของปตท. มีโอกาสที่จะมีกำไรสุทธิต่ำกว่าปีก่อนที่ระดับ 92,950 ล้านบาท หลังจากไตรมาสที่ 1/63 ขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และราคาน้ำมันตกต่ำจากซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ทะเลาะกัน ทำให้เกิดขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันที่จะยังคงจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน  ทั้งนี้จากกำไรในปี 2562 บริษัทจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2 บาท เท่ากับปี 2561

” โควิด ทำให้ธุรกิจและธุรกรรมทรุดลง กระทบต่อรายได้ ถามว่าปตท.จะมีกำไรไหม มีแน่นอน แต่กำไรไม่เยอะ  ส่วนจะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 50% หรือ 60% ของกำไรสุทธิเหมือนเดิมหรือไม่ ขอดูอีกที “นายไกรฤทธิ์ กล่าว

ประธานกรรมการ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คณะกรรมการได้มอบนโยบายให้ฝ่ายจัดการ ต้องรักษาสภาพคล่องและอันดับความน่าเชื่อถือ เพราะหากเสียอันดับเรทติ้งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของปตท.สูงขึ้นมาก ดังนั้น การจะจ่ายปันผลต้องพิจารณาให้รอบคอบมาก เพื่อไม่ให้กระทบกับเรทติ้ง

ส่วนกรณีนักลงทุนอาจจะกังวลเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของ ปตท. หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายปันผลระหว่างกาลปี 63 นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า ธุรกิจของ ปตท.ต่างกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ หากแบงก์จ่ายเงินปันผลออกไปจะกระทบต่อเงินกองทุนซึ่งมีผลต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อมากหรือน้อย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการให้แบงก์รักษาความสามารถในการขยายสินเชื่อได้มาก ท่ามกลางสถานการณ์ลูกหนี้ขาดสภาพคล่อง จึงไม่ให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับปตท.จะจ่ายปันผลระหว่างกาลหรือไม่ต้องรอดูงบ 6 เดือนแรกของปีนี้ก่อน

ทั้งนี้ ในงบการเงินปี 2562 ปตท. มีหนี้สินเพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) 0.5 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีสัดส่วน 0.08 เท่า แต่ยังไม่เกิน 1 เท่าตามนโยบายที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน สัดส่วนหนี้สินสุทธิ/อิบิทดา ก็เพิ่มขึ้น จาก 0.31 เท่า เป็น 1.14 เท่า แต่ก็ยังไม่เกินที่กำหนไว้ 2 เท่า ขณะเดียวกันเงินฝากประจำก็ลดลง เนื่องจากบริษัทในกลุ่มมีความต้องการใช้เงินลงทุน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการสอบถามความคืบหน้าในการเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR)นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่รีบ เพื่อต้องการขายในราคาที่เหมาะสม โดยมีเวลาในการขายหุ้น 1 ปี นับตั้งแต่ก.ล.ต.อนุมัติ ทั้งนี้ ปตท.จะถือหุ้นไม่ต่ำว่า 75% ของทุนชำระแล้ว

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. กล่าวว่า ปตท.มีความมั่นคงทางการเงิน และมีการดำเนินงานที่ดีขึ้น หลังจากลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และลดการลงทุนในโครงการที่ยังไม่จำเป็น หรือยังไม่ถึงเวลาออกไปก่อน ขณะเดียวกันกลุ่มปตท.มีการตั้งกลุ่มผู้บริหาระดับสูง เพื่อดูแลสถานการณ์โควิดและราคาน้ำมัน รวมถึงชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ว่าส่งผลกระทบและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสำหรับปีนี้