HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 459 จุด พุ่งกว่า 1.78% หุ้นแอมะซอนราคาทะลุ 3,000 ดอลลาร์ แนสแด็กนิวไฮ นักลงทุนคาดหวังเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบผันผวนปรับตัวลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ที่ 26,287.03 จุด พุ่งขึ้น 459.67 จุด หรือ 1.78% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำนิวไฮอีกครั้ง เป็นการเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้น 5.7% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่ปี 2018 แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้นและหลายรัฐได้กลับมาใช้มาตรการเข้มงวดกับธุรกิจอีกรอบเพื่อควบคุมการระบาด
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,179.72 จุด เพิ่มขึ้น 49.71 จุด, +1.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,433.65 จุด เพิ่มขึ้น 226.02 จุด, +2.21%
ตลาดยังปรับตัวเพิ่มขึ้นจากหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นเทคโนโลยีที่แตะระดับสูงสุดใหม่ โดยหุ้นโกลด์แมนแซคส์เพิ่มขึ้น 5.1% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 2.5% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.63% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.83%
นอกจากนี้ ผลสำรวจดัชนีภาคบริการเดือนมิถุนายนของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 จาก 45.4 ในดือนพฤษภาคมเป็นปัจจัยหนุนตลาด เพราะเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนสูงสุดนับตั้แต่มีการสำรวจในปี 1997
นักลงทุนยังคาดหวังว่า เศรษฐกิจในสหรัฐฯและเอเชียจะฟื้นตัวแบบ V-shape จากการใช้มาตรการทางการคลังและมาตรการทางการเงินของธนาคารทั่วโลก ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์โกลด์แมนแซคส์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯปี 2020 ลงอีก เป็น -4.6% จาก -4.2% เป็นผลจากการหันกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่คาดกว่าปี 2021 เศรษฐกิจจะขยายตัว 5.8%
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อกิจการของวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยบริษัทเบิร์กไชร์ แฮทธะเวย์ได้ซื้อธุรกิจส่งก๊าซธรรมชาติ (Transmission)และธุรกิจจัดเก็บก๊าซจากโดมิเนีบน เอ็นเนอร์จี้มูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์รวมภาระหนี้
หุ้นโดมิเนียน เอ็นเนอร์จี้ลลดลง 11% หุ้นเบิร์กไชร์ แฮทธะเวย์เพิ่มขึ้น 2.4%
หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 6.03% จากข่าวซื้อธุรกิจ Postmates แอปพลิเคชั่นบริการส่งอาหาร มูลค่า 2.65 พันล้านดอลลาร์
หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 5.77% มาปิดที่ 3,057 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นครั้งแรก ส่งผลให้มูลค่าตลาดแตะ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.68% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 3.55% และหุ้นอัลฟาเบทบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 2.02%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 3.9% นักลงทุนเกาะติดแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขณะที่ไม่กังวลต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเมื่อวันศุกร์อนุมัติแบบมีเงื่อนไขให้กับบริษัทกิลเลียดซายนส์ในการใช้ยาแรมเดซิเวียร์ในสหภาพยุโรป ส่งผลให้บริษัทฯเป็นรายแรกที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการรักษาไวรัสในอียู ขณะเดียวกันมีรายงานว่าอังกฤษทำข้อตกลงกับซาโนฟี่ และแกล็กโซสมิทแอนด์ไคลน์ เพื่อซื้อวัคซีน 60 ล้านโดสในวงเงิน 500 ล้านปอนด์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 371.21 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด, +1.58%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,285.94 จุด เพิ่มขึ้น 128.64 จุด, +2.09%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,081.51 จุด เพิ่มขึ้น 74.38 จุด, +1.49%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,733.45 จุด เพิ่มขึ้น 205.27 จุด, +1.64%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 40.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 43.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว
