“ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์” ทุ่ม 115 ลบ.ร่วมทุนตั้งรง.ผลิตอาหารเสริม พร้อมเข้า SET

HoonSmart.com>> “ซัคเซสมอร์” ทุ่มงบกว่า 115 ล้าน ร่วมลงทุนโรงงานผลิตสินค้า “SCM Innovative” ขยายไลน์ผลิตรองรับต่อความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด เดินหน้ากระจายสินค้าทั่วอาเซียน ผลักดันธุรกิจขายตรงโตยั่งยืน พร้อมเข้าตลาดหลักรัพย์ ขาย

นายแพทย์ สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดว่าจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆ นี้ ด้วยประเภทธุรกิจพาณิชย์ หลังจากแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2562 โดยมีแผนสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯภายหลัง IPO

SCM ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง (Mut-evel Markeing) ซึ่งการประกอบธุรกิจโรงงานถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุน สามารถกำหนดราคาในการแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้ลงทุนในโรงงานผลิตร่วมกับคู่ค้ารายใหญ่บริษัท เซ็น ไบโอเทค จำกัด (ZEN) ภายใต้ชื่อ บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ (SMI) เพื่อความยั่งยืน และการเติบโตของกิจการ

“โรงงานแห่งใหม่นี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าโดยใช้นวัตกรรมใหม่ ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เร่งผลักดันการกระจายสินค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งจะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้เป็นอย่างดี” นายแพทย์ สิทธวีร์ กล่าว

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2563 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เข้าซื้อกิจการบริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (SMI) สัดส่วน 55% ซึ่ง SMI ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ที่ตั้งบริเวณคลองห้า อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดย ZEN เพื่อประกอบธุรกิจ SMI ประกอบธุรกิจเป็นโรงงานผลิต และศูนย์วิจัยและพัฒนา อาหารเสริมให้กับซัคเซสมอร์ โดยจัดตั้งโรงงานในพื้นที่จำนวน 1 ไร่พร้อมอาคารด้วยงบมูลค่า 30 ล้านบาทและลงทุนในเครื่องจักรและงานระบบติดตั้งเครื่องจักรด้วยงบลงทุน 40 ล้านบาท ดังนั้น SMI ลงทุนในสินทรัพย์ทั้งสิ้น 70 ล้านบาท และมีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกิจการ อีก 30 ล้านบาท ซึ่งเงินทั้งหมดเกิดจากการระดมทุนจาก SCM และ ZEN

สำหรับการก่อสร้างโรงงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วน และมีการผลิตรอบแรกในช่วงปลายเดือน ก.ค.2563 และสามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มกำลังการผลิตในเดือน พ.ย.2563 นี้ โดยโรงงานผลิตสินค้าในช่วงแรกสามารถผลิตสินค้า ที่โอนการผลิตจาก กลุ่มบริษัทเซ็น ไบโอเทค ทั้งหมดจำนวน 18 รายการ ประกอบด้วยกลุ่มอาหารเสริม โดยรวมถึงรายการผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของบริษัทฯ เช่น Phytovy, Phytovy LIVE, Mores Collagen, กาแฟ และรายการสินค้าอื่นอีกมากมาย ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังการผลิตกว่า 3.6 ล้านซองต่อเดือนในอนาคต ในรูปแบบแคปซูล ตอกเม็ด และชนิดผง ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำกำไรสุทธิได้ไม่น้อยกว่า 30% ของรายได้ทั้งหมด และประเมินอัตราการเติบโตต่อปีไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี สำหรับโรงงานผลิต โดยคาดการณ์แนวโน้มจากภาวะตลาดของอาหารเสริมในปัจจุบัน และปริมาณลูกค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับแผนการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ ถือเป็นน้องใหม่ของวงการที่มาแรง สะท้อนถึงความเชื่อมั่น ได้รับการยอมรับจากสมาชิก และผู้บริโภค โดยบริษัทฯ มีรายได้ติดอยู่ในอันดับ TOP 10 ระดับ 1,000 ล้านบาท จากกว่า 400 บริษัทขายตรงในประเทศไทย เรามีศักยภาพสูงทางด้านการทำธุรกิจในรูปแบบ Multi-level Marketing ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าคุณภาพ และไม่ใช่แค่ตลาดในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังตลาดอาเซียน โดยบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อที่จะขยายธุรกิจออกไป และทำให้กิจการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนในอนาคต”นายนพกฤษฏิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่เรามุ่งเน้นคือการสร้างแบรนด์ “ซัคเซสมอร์” ให้แข็งแกร่ง เพื่อตอกย้ำ Brand Essence ของเรา ที่สื่อถึง ‘พลังแห่งชัยชนะของผู้คน’ ให้นักธุรกิจและผู้คนที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์จะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังแห่งชัยชนะ ด้วยการมีสุขภาพที่ดีขึ้นจากการใช้สินค้า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยแนวคิดการสร้างชุมชน Wellness & Well-being และเครื่องมือทางธุรกิจที่บริษัทฯ มอบให้ ทุกคนเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม SCM ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน พร้อมส่งมอบคุณค่าในเรื่องการแบ่งปัน ช่วยเหลือสังคม และยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น