ดาวโจนส์ปิดบวก 177 จุด หวังเศรษฐกิจฟื้นแบบ V-shape

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 177 จุด หวังเศรษฐกิจฟื้นแบบ V-shape กลบความกังวลล็อกดาวน์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปสวนทางร่วงกังวลโควิด-19 ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ที่ 26,067.28 จุด เพิ่มขึ้น 177.10 จุด หรือ 0.68% จากสัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กลบความกังวลต่อการที่จะนำมาตรการล็อกดาวน์มาใช้อีกครั้ง เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

กลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเพราะนักลงทุนคาดว่า จะได้รับผลดีหากมีการล็อกดาวน์และให้ทำงานกับบ้านจากการที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นใน 30 รัฐ และส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ทำนิวไฮอีกครั้ง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,169.94 จุด เพิ่มขึ้น 24.62 จุด, +0.78%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,492.50 จุด เพิ่มขึ้น 148.61 จุด, +1.44%

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์สปาร์ตัน แคปิตอล ซิเคียวริตีส์ ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีภาคบริการในเดือนมิถุนายน รวมทั้งมองไปที่การเปิดเศรษฐกิจมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์จากอัลลาย อินเวสต์ ระบุว่า นักลงทุนส่วนหนึ่งจับตาการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้าจากธนาคารขนาดใหญ่ ทั้งนี้คาดว่าผลการดำเนินงานจะค่อนข้างย่ำแย่แต่ไตรมาส 2 ก็จะเป็นจุดต่ำสุด และจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 แม้จะลดลงเป็นเลขสองหลัก นอกจากนี้นักลงทุนยังหวังว่าผลการดำเนินงานปี 2021 จะดีกว่าปี 2020 อย่างมาก

นายลาร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า แม้ยังมีความไม่แน่นอน แต่เศรษฐกิจมีสัญญานฟื้นตัวแบบ V-shape โดยชี้ว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 8 ล้านตำแหน่งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา และข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆก็บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวแบบ V-shape

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลาง (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีเมื่อคืนนี้ว่า อัตราว่างงานมีแนวโน้มลดลงมาที่ระดับ 7% ภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตามตลาดอ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดของวัน เพราะหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจปรับตัวลดลง

นับตั้งแต่ต้นปีดัชนี DJIA ลดลงแล้ว 8.66% ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.88% แต่ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 16.94%

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 60,000 รายภายในวันเดียวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7 วันสูงกว่าค่าเฉลี่ย14 วัน สะท้อนว่าสถานการณ์ร้ายแรงขึ้น

สินเชื่อเพื่อการบริโภคเดือนพฤษภาคมลดลง 5.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากลดลง 20% ในเดือนเมษายน

หุ้นแอปเปิล เพ่มขึ้น 2.33% หุ้นไมโครซอฟต์ เพิ่มขึ้น 2.20% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.13% หุ้นอัลฟาเบธเพิ่มขึ้น 0.92% หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 2.7% หุ้นเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น 1.95%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในแถบเซ้าท์อีสต์และเซ้าท์เวสต์ของสหรัฐและในประเทศอื่นทั่วโลก จะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวยากขึ้น ขณะที่การล็อกดาวน์ในนครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ยิ่งทำให้นักลงทุนวิตกมากขึ้น

ตลาดยังอ่อนตัวลงจากการลดลงของหุ้นเอชเอสบีซีและโนเกีย

ในอังกฤษกระทรวงการคลังประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 30 พันล้านปอนด์ ซึ่งรวมถึงนำคนที่ถูกออกจากงานกลับเข้าระบบแรงงานใหม่และการลดภาษีมูลค่าสำหรับภาคบริการ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 366.48 จุด ลดลง 2.48 จุด, -0.67%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,156.16 จุด ลดลง 33.74 จุด, -0.55%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,981.13 จุด ลดลง 62.59 จุด, -1.24%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,494.81 จุด ลดลง 121.99 จุด, -0.97%

หุ้นเอชเอสบีซีลดลง 2.07% หลังบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังกดดันธนาคารในฮ่องกงผ่านการยกเลิกการผูกค่าเงินฮ่องกงไว้กับเงินดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากมีการยกเลิกจะทำให้ฮ่องกงไร้เสถียรภาพและผลกระทบของค่าเงินต่อผลการดำเนินงานบริษัทจะมากขึ้น

หุ้นโนเกียลดลง 3.71% จากรายงานว่า บริษัทเวอร์ไรซอน คอมมิวนิเคชั่นส์ จากสหรัฐอาจจะหันไปให้ซัมซุง อิเล็กทรอนิคส์เป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์หลักแทน

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 28 เซนต์ปิดที่ 40.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ปิดที่ 43.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นรับความต้องการในสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว