บลจ.กสิกรปลื้ม Term Fund Plus ขายเกลี้ยง 2 วัน ส่งกองใหม่ขาย 10-16 ก.ค.นี้

HoonSmart.com>>บลจ.กสิกรไทยปลื้ม Term Fund Plus ขายเกลี้ยง 2 วัน มูลค่า 2,780 ล้านบาท พร้อมส่งกองใหม่ขาย 10-16 ก.ค.นี้ ชูผลตอบแทนสูงกว่า Term Fund ทั่วไป เน้นลงทุนตราสารหนี้ในเอเชียคุณภาพดี อายุโครงการ 1 ปี คาดผลตอบแทน 1.4-1.6% ต่อปี

นาวิน อินทรสมบัติ

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบลจ.กสิกรไทย เปิดเสนอขาย Term Fund Plus กองแรกภายใต้ชื่อ กองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท เอเชียน บอนด์ 2021A (KAB21A) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกองทุนชูโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า Term Fund ทั่วไป ส่งผลให้มียอดจองซื้อเข้ามาเต็มจำนวนเงินทุนของโครงการ และปิดการขายภายในระยะเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,780 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ก.ค. 63)

บลจ.กสิกรไทย พร้อมเปิดเสนอขาย Term Fund Plus กองใหม่ชื่อ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021A (KFF21A) ในระหว่างวันที่ 10-16 กรกฎาคม 2563 โดยคาดหวังผลตอบแทนที่ 1.4% ต่อปี – 1.6% ต่อปี

นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า กองทุน KFF21A ใช้กลยุทธ์ในการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างบลจ.กสิกกรไทย และ Invesco Hong Kong โดยมอบหมายให้ Invesco Hong Kong รับหน้าที่บริหารเงินลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย รวมถึง High Yield Bond บางส่วน ผ่านกองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – I, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 70% ของพอร์ต ส่วนบลจ.กสิกรไทย จะรับหน้าที่บริหารเงินลงทุนในเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) และเงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงอันอาจเกิดจากความผันผวน

“ตราสารหนี้เอเชียยังคงมีความน่าสนใจจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ผู้ลงทุนแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้เอเชียถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะตราสารหนี้ในระดับ Investment Grade ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากผู้ออกเป็นรัฐวิสาหกิจจึงมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำ”นายนาวิน กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีมุมมองเป็นบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในระยะยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดี และนำประเทศอื่นเนื่องจากจีนเปิดประเทศก่อน รวมถึงการเปิดตลาดทุนของจีนให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องจับตาประเด็นความขัดแย้งกับสหรัฐฯ และประเด็นจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 รายใหม่ โดยคาดว่าจีนจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นเนื่องจากมีประสบการณ์และมีระบบการติดตามเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการสั่งการที่รวดเร็ว

นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KFF21A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 1 ปีได้ และมองเห็นโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากต่างประเทศภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำ โดยสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าว

บลจ.กสิกรฯ เปิดตัว ‘เทอมฟันด์ พลัส’ อัพยีลด์ เน้นตราสารหนี้คุณภาพดีเอเชีย