‘ทอง’ทะลุ 1,800 เหรียญ สูงเฉียด 9 ปี ลุ้นไฮประวัติศาสตร์ 1,920 เหรียญ

HoonSmart.com>>นักลงทุนลุยทองคำ สินทรัพย์ปลอดภัย ดันราคาทะลุ 1,800 เหรียญแข็งแกร่ง ลุ้นวิ่งขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ 1,920 เหรียญ ปี 2012 “วายแอลจีฯ” เตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง ยิ่งสูงยิ่งหนาว ส่วนหุ้นไทยบวกเล็กน้อย 3 จุด ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อ 1,241 ล้านบาท ลองฟิวเวอร์ส 6,000 สัญญา AOT มีบิ๊กล็อต 1,700 ล้านบาท ราคาสูงกว่าตลาด หนุนบล.เครดิตสวิส มาร์เก็ตแชร์สูงสุด 24% ทิ้งห่างแชมป์ ภัทรที่ 9.70%

นาง พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,818 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ก่อนลงมาปิดเหนือ 1,800 เหรียญได้สำเร็จ นับเป็นจุดสูงสุดในรอบ 8 ปี 8 เดือน ซึ่งราคาที่ขึ้นมาสูงขนาดนี้ นักลงทุนจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง แบ่งขายทำกำไรออกไปบ้าง เพราะหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,818 เหรียญได้ ราคาอาจมีการอ่อนตัวลงเพื่อสร้างฐานอีกครั้ง โดยมีโอกาสลงไปบริเวณ 1,760 และ 1,740 เหรียญ

ในทางกลับกัน หากราคาสามารถผ่านแนวต้านที่ 1,818 เหรียญสหรัฐได้สำเร็จ โอกาสจะไปต่อได้ไกลถึง 1,920 เหรียญ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในประวัติศาสต์ร์เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 ทั้งนี้นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลย้อนหลังไปดูความเคลื่อนไหวของราคาได้ กว่าจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดใช้เวลา 2 สัปดาห์ จะเคลื่อนไหวผ่านระดับ 1,817 เหรียญ 1,836 เหรียญ 1,850 เหรียญและ 1,875 เหรียญ

” นักลงทุนจะต้องระวังให้เยอะ หากใช้โมเดลปี 2012 เราจะได้กำไร 100 เหรียญ แต่ถ้าเสียมีโอกาสลงได้มากถึง 400 เหรียญ ซึ่งก็เป็นไปได้ มาจาก 2-3 ปัจจัย เช่น หากสหรัฐมีคนติดโควิด-19 ลดลง จากปัจจุบันสูงถึงวันละ 4-5 หมื่นคน หรือหายาต้านได้ ก็จะเป็นปัจจัยลบต่อทอง นักลงทุนจะหันกลับไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในหุ้นมากขึ้น”นางพวรรณ์กล่าว

ปัจจุบันนักลงทุนสถาบันยังคงเข้าลงทุนทอง เห็นได้จากกองทุน SPDR ถือครองเพิ่มขึ้น +3.21 ตัน รวมถึงสภาพคล่องที่ล้นตลาดมาจากการอัดฉีดของธนาคารกลางต่างๆ และนักลงทุนที่มีรายได้ ก็ไม่กล้าใช้จ่าย เก็บเงินหรือเลือกลงทุนในทองที่สร้างรายได้ และเชื่อมั่นได้ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ

ทาง YLG ให้กลยุทธ์การลงทุน มองแนวรับไว้ที่ 1,803-1,800 เหรียญ และเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,818 เหรียญ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้ อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,831 เหรียญ

ด้านราคาทองซื้อขายในประเทศ วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา สมาคมค้าทองคำมีการปรับราคา 2 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้นบาทละ 150 บาท ทองคำแท่ง รับซื้อที่บาทละ  26,600 บาท ขายออก 26,700 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 26,120.68 บาท และขายออก 27,200 บาท เทียบราคา Spot 1,811.50 เหรียญ และเงินบาทอยู่ที่  31.18 บาท

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศ เคลื่อนไหวบวกลบแคบๆ สุดท้ายดัชนีปิดที่ระดับ 1,365.81 จุด +3.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 72,680.06 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,241 ล้านบาท รายย่อยซื้อ 321 ล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศขาย 1,710 ล้านบาท

ตลาดมีการซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้น AOT (ท่าอากาศยานไทย) จำนวน 30,645,007 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 57.47 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 1,761.21 ล้านบาท  โดยราคาสูงกว่าในตลาด ปิดที่ 56.25 บาท -1.25 บาทหรือ -2.17%  ทั้งนี้คาดทำรายการผ่านบล.เครดิตสวิส ที่มีส่วนแบ่งการตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ สูงสุด 24% แซงหน้าบล.ภัทร แชมป์โบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 9.70%