บาทอ่อนหนุนอิเล็กฯ DELTA เด่นสุด ธุรกิจอาหาร ยก TU-CPF

HoonSmart.com>>เงินบาทอ่อนหนุนส่งออก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้น ดันกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บวก กลุ่มเกษตรและอาหารได้รับผลดีด้วย บล.โนมูระฯ เผยอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว แนะเก็งกำไร DELTA-KCE บล.ฟินันเซียฯ ให้ HANA-DELTA-KCE บล.หยวนต้า ยก DELTA หุ้นเด่น สกิดราคาเริ่มมาไกล รอจังหวะเข้าซื้อ ส่วนธุรกิจอาหาร มติเอกฉันท์  นำเสนอ TU-CPF

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 31.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ และมีสัญญาณอ่อนต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อผู้ส่งออก โดยเมื่อวันที่่ 10 ก.ค.63 ที่ผ่านมา หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นแรงยกแผง DELTA ปิดที่ 69.50 บาท +9.00 บาท แรงถึง+14.88%  KCE ปิดที่ 25.25 บาท+1.95 บาทหรือ+8.37%) และ HANA ปิดที่ 32.75 บาท +2.50 บาทหรือ +8.26% สวนทางตลาดหุ้นโดยรวมทรุดลง ดัชนีปิดที่ 1,350.50 จุด ร่วง -15.31 จุดหรือ -1.12%

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน – กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า จากสัญญาณเศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลดีต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว นโยบายการกระตุ้นกำลังซื้อรถยนต์เป็นปัจจัยหนุน โดยให้ DELTA แนวต้านที่ 74-75 บาท และ KCE แนวต้านที่ 27-28 บาท แนะเก็งกำไร รอประเมินราคาเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนกลุ่มธุรกิจอาหาร ผลประกอบดีอ คาดไตรมาส 3/63 จะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ รวมถึงการส่งออกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ให้ TU ราคาเหมาะสมที่ 16.20 บาท ต้นทุนราคาทูน่าเริ่มดีขึ้น และ CPF ที่ 34.50 บาท ปัจจัยที่ต้องติดตามสำหรับธุรกิจอาหารมองว่าเป็นการระบาดของโรคในสัตว์

ด้านฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าว่า ค่าเงินบาทอ่อนส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มส่งออก ค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากการเปิดเมืองของประเทศคู่ค่า แต่ยังต้องติดตามการระบาดของโควิด-19 ที่เป็นปัจจัยกดดันตลาด

ค่าเงินบาทอ่อนส่งผลดีต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เริ่มมียอดขายที่ฟื้นตัวดีขึ้น จากอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มกลับมาดีขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเติบโตในะระยาว ส่งผลต่อต้นน้ำ ทำให้ชิ้นส่วนขายได้มากขึ้น ให้หุ้นเด่น HANA ราคาเป้าหมายสิ้นปี 64 ที่ 38 บาท และ KCE 24 บาท ส่วน DELTA ใช้จังหวะราคาอ่อนตัวลงในการเข้าซื้อ

ขณะที่ธุรกิจอาหารได้ประโยชน์ให้ CPF คาดกำไรไตรมาส 2/63 กระทบนิดหน่อย จากปัจจัยราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับลด ปริมาณการส่งออกลดลง และส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL ที่ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 คาดว่ากำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นจากเดียวกันของปีที่แล้ว  ช่วงครึ่งหลังของปี 63 จะเห็นภาพที่ดีขึ้นมาก

ส่วน TU คาดไตรมาส 2/63 ออกมาดีกว่าคาด ภาพรวมต้นทุนทูน่าดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ดีขึ้น ส่วนช่วงครึ่งปีหลัง ราคาทูน่าจะปรับเพิ่มตามฤดู แต่คาดว่า TU ยังสามารถควบคุมได้ดีตามแผน

ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มขนส่งเดินเรือ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและอาหาร ได้ประโยชน์ หลังเริ่มเห็นค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และเศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้น การส่งออกฟื้นตัว เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มเหล่านี้ แนะหุ้น DELTA จากอุตสาหกรรมยานยนต์ในต่างประเทศ ที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และการรับงานจาก Tesla ซึ่งราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก ใช้จังหวะรอปรับลดในการเข้าซื้อ ปัจจัยลบยังต้องติดตามการระบาดของโควิด-19 และการเมืองในประเทศ