SCBS หั่นเป้าปีนี้ 1,428 จุด จัดพอร์ตเล่นสั้น-ยาว

HoonSmart.com>>หุ้นผันผวนสูง เช้า บวก 13 จุด บ่ายร่วง 10 จุด กังวลโควิดระบาดรอบสอง บล.ไทยพาณิชย์ คาดดัชนีมีโอกาสหลุด 1,300 จุด ให้แนวรับที่ 1,280 จุด ยังมีแรงกดดันต่อ กำไรบจ. มีโอกาสปรับลดจากที่ประเมินไว้ 62.57 บาทต่อหุ้น ลดลง 27%  แนะจัดพอร์ต ระยะยาว เลือก BTS-BEM-CPF-BDMS-BCH-ADVANC เก็งกำไรระยะสั้น  BBL-ERW-IVL-HANA  บล.โนมูระ พัฒนสินคาดตลาดไซเวย์ขาลง 

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 63 ยังคงแกว่ง Sideways  มองมีโอกาสหลุดระดับ 1,300 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,280 จุด คาดดัชนีสิ้นปีที่ 1,428 จุด ลดลงจากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 1,450 จุด

ปัจจุบัน valuation ไม่สมเหตุสมผล ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19  ยังคงมุมมองการลงทุนระมัดระวังต่อภาคบริการ เนื่องจาก การฟื้นตัวช้า อัตราการผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้นของธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยและยุโรปอาจจะฟื้นตัวช้ากว่าสหรัฐฯ และเอเชียเหนือ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากภาคบริการน้อยกว่า

ตลาดยังมีโอาสจะปรับตัวลดลงตามความเสี่ยง ทั้งการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง การระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

นอกจากนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/63 กดดันตลาดต่อ กำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ปีนี้มีโอกาสปรับลดประมาณการลง จากที่ประเมินไว้ 62.57 บาท ต่อหุ้นลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนไตรมาสที่ 3/63 ยังคงเน้น Defensive เศรษฐกิจจะยังคงเติบโตอย่างช้าๆ ในระยะ 1-3 ปี ข้างหน้า ดังนั้น พอร์ตลงทุนหลักระยะยาวจึงแนะนำให้เข้าซื้อหุ้นที่มีคุณภาพสูง เช่น กลุ่มสินค้าจำเป็น และกลุ่มการแพทย์ BTS , BEM , CPF , BDMS , BCH และ ADVANC  ส่วนพอร์ตเก็งกำไรระยะสั้น ให้หุ้น BBL , ERW , IVL และ HANA ตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลกและวัฏจักรเศรษฐกิจในประเทศที่มีคุณภาพดี ส่วนเป้าหมายของดัชนีหุ้นในปี 2564 ไว้ที่ 1,430 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดสัปดาห์นี้ หุ้นไทย ‘Sideways-Down’ โดยแรงกดดันหลักของตลาดยังคงเป็นโควิดระบาดรอบสองในสหรัฐฯ สะท้อนเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังอาจเห็นภาพการฟื้นตัวที่สะดุดลง สวนทางกับทางฝั่งเอเชีย โนมูระประเมินเศรษฐกิจเอเชียเหนือจะฟื้นตัวได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ส่วนไทยฟื้นตัวที่ช้า เพราะไทยขาดกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Key Driver สำคัญอย่างกลุ่มเทคโฯโลยี ทำให้ความน่าสนใจลดลง ประกอบกับกำไรตลาดหุ้น (EPS) ที่ถูกปรับลงอย่างต่อเนื่อง กว่า -26%จากปีก่อน ถือเป็นประเทศที่ถูกปรับลดมากที่สุดในเอเชีย กดดันดัชนียังอยู่ช่วงปรับฐาน

กลยุทธ์การลงทุน  ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าระยะสั้นเป็นปัจจัยกดดันเงินไหลออกดังนั้นพอร์ตลงทุนเชิงเทคนิค คงแนะนำถือหุ้นเพียง 25% ส่วนการเก็งกำไรเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ส่วนเดือนก.ค. ให้แนวต้าน 1381/1400 จุด แนวรับ 1286/1265 จุด กรณีแย่ 1210 จุด