HoonSmart.com>> บล.ทรีนีตี้ ประเมินความเสี่ยงโควิดระบาดรอบ 2 ส่อเลื่อนโครงการ Travel bubble กระทบหุ้นท่องเที่ยว Sentiment เชิงลบหุ้น 4 กลุ่มกังวลล็อกดาวน์ ด้าน 3 กลุ่มได้ผลดี WFH ประชาชนระมัดระวังตัวมากขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ มองประเด็นความเสี่ยงของการระบาด COVID-19 รอบสองในประเทศจะเป็นตัวเปิด Downside risk ให้กับเศรษฐกิจของไทยในช่วงถัดไปมากขึ้น เนื่องจากยังไม่ได้อยู่ในสมมติฐานของหน่วยงานต่างๆเท่าใดนัก ที่สำคัญสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถือเป็นตัวสะท้อนชั้นดีว่าคนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างจะ Sensitive ต่อการ Import เชื้อ COVID-19 มาจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงค่อนข้างมั่นใจว่าโครงการ Travel bubble ที่ไทยต้องการจะจับคู่กับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำนั้น น่าจะต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรืออาจจะไม่ได้เห็นเลยในปีนี้ เกิดความเสี่ยงที่หน่วยงานต่างๆ จะต้องออกมาปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ลงอีก ส่งผลลบต่อกลุ่มท่องเที่ยวซึ่งก็ยังเป็นกลุ่มที่แนะนำ ‘หลีกเลี่ยง’ ต่อไปเช่นเดิม ทั้ง สนามบิน (AOT) สายการบิน (BA, AAV) โรงแรม (AWC, CENTEL, ERW, MINT) และบริการนักท่องเที่ยวต่างๆ (SPA)
ส่วนประเด็นความเสี่ยงการระบาด COVID-19 ในไทยรอบสองที่มีมากขึ้นนี้ อาจส่งผล Sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มท่องเที่ยวข้างต้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาจเสียประโยชน์หากการ Lockdown กลับมาเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง และทำให้ผู้คนลดระดับการออกจากบ้าน อาทิ
1) กลุ่มห้างสรรพสินค้า ได้แก่ CRC, MBK, PLAT, LHSC, CPNREIT
2) กลุ่ม Home product เช่น HMPRO, GLOBAL, DOHOME
3) กลุ่มให้บริการความบันเทิงนอกบ้าน อาทิ MAJOR
4) กลุ่ม Mass transit และปั๊มน้ำมัน ได้แก่ BEM, BTS, PTG
อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้อาจทำให้ปรากฏการณ์ WFH ในประเทศเริ่มกลับมาอีกครั้ง รวมถึงยกระดับความระมัดระวังของผู้คน ซึ่งก็อาจจะส่งผล Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นบางกลุ่มได้เช่นกัน อาทิ
1) กลุ่ม Packaging ได้แก่ SFLEX
2) กลุ่มประกันภัย ได้แก่ TQM
3) กลุ่มกักตุนสินค้า ได้แก่ BJC, CPALL, MAKRO
