RATCH ทุ่ม 2.5 พันลบ. ร่วมทุน Geleximco ขยายฐานธุรกิจในเวียดนาม

HoonSmart.com>> “ราช กรุ๊ป” จับมือ Geleximco Group ขยายฐานธุรกิจในเวียดนาม ทุ่ม 2,500 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 49% กองทุนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ABEIF ปัจจุบันลงทุน 4 โรงไฟฟ้า กำลังผลิต 2,620 เมกะวัตต์ ด้านบล.หยวนต้า มอง “บวก” RATCH แนะซื้อ ราคาเป้าหมาย 72 บาท

บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) แจ้งว่า วันที่ 15 ก.ค.2563 บริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RHIS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ลงนามสัญญาหุ้นส่วนกับ Geleximco Group Joint Stock Company (Geleximco) เพื่อเข้าลงทุนในกองทุน An Binh Energy and Infrastructure Fund (ABEIF) ซึ่งเป็นกองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในเวียดนาม โดย RHIS ถือหุ้นกองทุน ABEIF สัดส่วน 49% มูลค่าการลงทุนประมาณ 78.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ส่วน Geleximco ถือหุ้น 51%

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) กล่าวว่า Geleximco เป็นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำรายใหญ่ของเวียดนามที่ดำเนินธุรกิจแกนหลักที่มีความหลากหลายครอบคลุมด้านพลังงาน สาธารณูปโภคพื้นฐาน อุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การค้าและการบริการ จึงถือว่าเป็นพันธมิตรท้องถิ่นที่แข็งแกร่งซึ่งจะช่วยเสริมหนุนบริษัทฯ ในก้าวย่างสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการขยายฐานการลงทุนใหม่ในประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมีกองทุน ABEIF เป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการลงทุนของบริษัทฯ ในโครงการด้านพลังงานและสาธารณูปโภคพื้นฐาน ตอบสนองการเติบโตของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันกองทุน ABEIF ได้ลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลและโครงการพลังงานทดแทนรวม 4 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 2,620 เมกะวัตต์ และ 1 ใน 4 โครงการนี้ มีขนาดกำลังการผลิต 620 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว

“บริษัทฯ มีความยินดีอย่างยิ่งกับความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งมีนัยสำคัญในการเริ่มต้นการผสานศักยภาพและผนึกความแข็งแกร่งกับพันธมิตรใหม่อย่าง Geleximco Group ร่วมกันพัฒนาธุรกิจในเวียดนาม ตามทิศทางและเป้าหมายที่สอดคล้องกันอันได้แก่ธุรกิจที่สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนามให้เจริญเติบโตและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งรัฐบาลเวียดนามมีเป้าหมายที่จะพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 130 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่ 54 กิกะวัตต์ บริษัทฯ จึงมีความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายกิจจา กล่าว

สำหรับกองทุน An Binh Energy and Infrastructure Fund (ABEIF) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2560 โดยผ่านความเห็นชอบของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงาน สาธารณูปโภคพื้นฐาน และอสังหาริมทรัพย์ เป็นหลัก

สินทรัพย์ของกองทุนในปัจจุบันประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงถ่านหินแอนทราไซด์ Thang Long ขนาด 620 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 650 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1,200 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเริ่มพัฒนาโครงการ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศและโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 150 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเริ่มพัฒนาโครงการ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) มองกรณี RATCH ประกาศลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในเวียดนาม ในสัดส่วน 49% มีขนาดโครงการที่ COD แล้ว 620 เมกะวัตต์ และมีโครงการระหว่างพัฒนาอีก 1,500-2,000 เมกะวัตต์ เบื้องต้นมีมุมมองเป็นบวก ราคาเป้าหมาย 72 บาท