MACO พลิกขาดทุน 128 ลบ.พิษโควิด-19

HoonSmart.com>> “มาสเตอร์ แอด” พลิกขาดทุนสุทธิ 128 ล้านบาท จากงวดปีก่อนกำไร 160 ล้านบาท เหตุรายได้ลดลงถูกกระทบโควิด-19 บุ๊กขาดทุนด้อยค่าสินทรัพย์ตามเกณฑ์ TFRS16 จำนวน 180 ล้านบาทฉุดงบ

บริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO) เปิดเผยผลดำเนินงานในช่วง 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2563 พลิกขาดทุนสุทธิ 128.58 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.025 บาท เมื่อเทียบงวดปีก่อนกำไรสุทธิ 160.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.037 บาท ผลงานลดลง 417.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นายพุน ฉง กิต ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO) เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 24 เม.ย.2562 MACO จะเปลี่ยนแปลงรอบบัญชี โดยเริ่มรอบบัญชีใหม่ของต้นปีงบประมาณแรกคือเดือนเม.ย.-มี.ค. จากเดิมที่เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.-ธ.ค.

ทั้งนี้ งวด 3 เดือน สิ้นสุดมี.ค.63 ที่ผ่านมา MACO มีรายได้จากการให้บริการ 612 ล้านบาท ลดลง 13.7% จาก 710 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรค COVID-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยธุรกิจสื่อโฆษณา มีรายได้ 270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 44 % ของรายได้ทั้งหมด

การเติบโตของหน่วยธุรกิจดังกล่าวเป็นผลมาจากการควบรวมงบการเงินแบบเต็มไตรมาสของธุรกิจสื่อโฆษณาในต่างประเทศที่บริหารโดย VGI Global Media (Malaysia) Sdn. Bhd. (VGM) ซึ่งเริ่มเมื่อส.ค.ปี2562 ขณะที่ ธุรกิจการให้บริการด้านระบบครบวงจร มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 56 % ของรายได้ทั้งหมด หรือ 343 ล้านบาท ลดลง 23.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากวิกฤตโควิดส่งผลให้การรับรู้รายได้จากการบริหารโครงการลดน้อยลง

นอกจากนี้บริษัทรู้ขาดทุนสุทธิจากค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ 180 ล้านบาท ประกอบด้วย การด้อยค่าของสินทรัพย์การตัดจำหน่ายสินทรัพย์และการบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 (TFRS16) ทั้งนี้ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าวบริษัทฯ จะรับรู้กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.0% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานในไตรสนี้ยังเป็นบวกอยู่ที่ 65 ล้านบาท

สำหรับทิศทางของปี 2563/64 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าวิกฤตดังกล่าวจะส่งผลต่อทุกหน่วยธุรกิจ ซึ่งนับเป็นปีแห่งความท้าทายยิ่งนัก รวมถึงธุรกิจสื่อโฆษณาทั้งในและต่างประเทศด้วยเช่นกัน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการใช้สื่อของแบรนด์สินค้าต่างๆ ลดลง เช่นเดียวกับธุรกิจการให้บริการด้านระบบครบวงจรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lock-down ทำให้การดำเนินงานมีความยากลำบาก รวมถึงส่งผลให้การเจรจาโปรเจคใหม่จำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาออกไป

“ปัจจุบันบริษัทยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการแพร่ระบาดจะยุติลงเมื่อใด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังคงมุ่งมั่นเพื่อรักษาความเป็นผู้นำเครือข่ายสื่อโฆษณานอกบ้าน ผ่านการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพของแพลนบี ตามกลยุทธ์เดิม และจากการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของภาครัฐ ทำให้การดำเนินงานด้านการขยายไปยังตลาดต่างประเทศจำเป็นต้องชะลอออกไปก่อน อันอย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์มีความคลี่คลายมากขึ้น เราจะเดินหน้าตามกลยุทธ์ขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาไปยังตลาดต่างประเทศเช่นเดิม”นายพุน กล่าว

ที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์ที่เราทุกคนต้องเผชิญกับวิกฤตดังกล่าว บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ด้านความปลอดภัยของพนักงาน ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน จึงได้ออกมาตรการเพื่อรักษาความปลอดภัยในองค์กรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบพื้นที่สื่อโฆษณาเพื่อใช้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการปฎิบัติตัวป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากเชื้อโรค รวมถึงจัดทำข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม เผยแพร่บนสื่อจอดิจิทัล ร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย