ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 100 จุด ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง

HoonSmart.com>ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 100 จุด ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอ่อนตัวลง ตลาดหุ้นยุโรปร่วง นักลงทุนกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ด้านราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 31กรกฎาคม  2563 ที่ 26,428.32 จุด เพิ่มขึ้น 114.67 จุด หรือ 0.44% จากที่เคลื่อนไหวในแดนลบระหว่างชั่วโมงซื้อขาย แต่ปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนักเพราะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีทั้งสดใสและย่ำแย่ อีกทั้งนักลงทุนผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจ ขณะที่ไร้ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ 

หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งรายงานผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดหลังตลาดปิดในวันพฤหัสบดี ปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด แต่ระหว่างวันได้อ่อนตัวลงไปในแดนลบ ก่อนที่จะกลับมาบวกในช่วงปิดตลาด 

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,271.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.90 จุด, +0.77% 
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,745.27 จุด เพิ่มขึ้น 157.46 จุด, +1.49% 

นักวิเคราะห์ระบุว่า ในช่วงแรกของการซื้อขายนักลงทุนให้ความสนใจกับผลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียน แม้หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด แต่กลุ่มพลังงานกลับมีผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ โดยเชฟรอนรายงานผลการดำเนินงานที่เลวร้ายสุดในรอบ 3 ทศวรรษ 

ตลาดยังปรับตัวลงจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนเผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 72.5 ต่ำกว่า 72.7 ที่นักวิเคราะห์คาด และลดลงจาก 72.9 ที่ประเมินครั้งแรก และจาก 73.2 ในเดือนมิถุนายน 

กระทรวงพาณิชย์เผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 5.6%  สูงกว่า 5.5% ที่นักวิเคราะห์คาด แต่รายได้ส่วนบุคคลลดลง 1.1% ลดลงมากกว่า 0.5%ที่นักวิเคราะห์คาด และยังคาดว่าการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคเดือนกรกฎาคจะลดลงเมื่อประเมินจากการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ยังเพิ่มขึ้น 

ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ที่ธนาคารกลาง(เฟด)ใช้เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิถุนายนตามคาด  

นอกจากนี้นักลงทุนยังผิดหวังที่การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ระหว่างพรรครีพับลิกัน พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวที่ไม่คืบหน้า เพราะพรรคเดโมแครตไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้ขยายโครงการการแจกเงิน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ช่วยเหลือคนตกงานที่สิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคมออกไปชั่วคราว และคาดว่าการเจรจาจะยังต่อเนื่องไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 

หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 10.47% จากกำไรที่สูงเป็นประวัติการณ์และดีกว่าที่ตลาดคาด รวมทั้งการประกาศแตกพาร์ในอัตราส่วน 4:1 หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 3.70% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 8.17% หุ้นอัลฟาเบทลดลง 3% แม้กำไรเป็นไปตามคาดแต่รายได้โฆษณาลดลง 

หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 2.81% จากกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาด 

หุ้นเชฟรอนลดลง 2.70% จากขาดทุนสูงเกินคาดและรายได้ต่ำกว่าประมาณการ หุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 0.50% แม้กำไรและรายได้ต่ำกว่าคาด 
 
 
 ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ผลการดำเนินงานไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาดถูกกลับด้วยความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจทั้งของยูโรโซนและเศรษฐกิจโลก 
ในเดือนกรกฎาคมกลุ่มสายการบินและการเดินทางลดลงมากสุดโดยหุ้นอีซีเจ็ตลดลง 22% หุ้นไอเอจีบริษัทแม่ของ บริติชแอร์เวย์ลดลง 20% 
สำนักงานสถิติยูโรเผย เศรษฐกิจยูโรโซนไตรมาสสองหดตัว 12.1% จากไตรมาสแรก ต่ำสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลปี 1995 โดยจีดีพีฝรั่งเศสติดลบ 13.8% ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ก็ยังต่ำเป็นประวัติการณ์ ส่วนจีดีพีสเปนติดลบ 18.5% 
        
การระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจีนดีกว่าคาด โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ( Purchasing Managers’ Index:PMI) ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาที่ 51.1 จาก 50.9 เดือนมิถุนายน และสูงกว่า 50.7 ที่นักวิเคราะห์คาดส่วนคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 51.7 และคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 48.4 แม้ต่ำกว่าระดับ 50 แต่ยังสูงกว่า 42.6 ในเดือนมิถุนายน 
           
นอกจากนี้อังกฤษได้นำมาตรการล็อกดาวน์กลับมาใช้อีกครั้งในทางตอนเหนือของประเทศเพราะจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากการที่ประชาชนไม่ยอมรักษาระยะห่าง 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 356.33 จุด ลดลง 3.19 จุด, -0.89% 
ดัชนี FTSE  100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,997.76 จุด ลดลง 92.23 จุด, -1.54%  
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด 4,783.69 จุด ลดลง 69.25 จุด, -1.43%  
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,313.36 จุด ลดลง 66.29 จุด, -0.54%  

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 35 เซนต์ปิดที่ 40.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 27 เซนต์ปิดที่ 43.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล