คอลัมน์ KTAM Focus : ของมันต้องขึ้น

โดย…ณัฏฐะ มหัทธนา
ผู้อำนวยการอาวุโส
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย

Elon Musk ซีอีโอของ Tesla บริษัทรถ market cap ใหญ่สุดในโลก จ้าวเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ให้สัมภาษณ์ Automotive News ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ว่า “จีน ‘ยอดเยี่ยม’ ในความเห็นของผม (Elon) พลังงานในจีนนั้นสุดยอด มีผู้คนจำนวนมากที่ฉลาดและทำงานหนัก ชาวจีนเหล่านี้ไม่ถือตัวว่าวิเศษวิโสกว่าคนอื่น พวกเขาไม่ชะล่าใจ แต่ผมกลับเห็นอเมริกันชนเยอะแยะถือตัวและชะล่าใจกว่ามาก โดยเฉพาะใน Bay Area (ซานฟรานฯ) แอลเอ และนิวยอร์ก” คำกล่าวของผู้บริหารนัก “ปั้น” หุ้นสุดฮอตแห่งปี 2020 (ช่วงนี้พูดอะไรใครๆก็คงอยากจะเงี่ยหูฟัง) อาจเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล ที่ถ่ายทอดบางแง่มุมของประสบการณ์ทำธุรกิจและตั้งโรงงานใน 2 ขั้วมหาอำนาจโลก ทว่าข่าวนี้สะดุดตาสะกิดใจเพราะมันเกี่ยวข้องกับ “2 ผู้นำโลก” ที่เราเลือกใช้ตะลุยสนามลงทุนเดือน ส.ค. พอดีนั่นคือ เทคโนโลยี “หุ้นกลุ่มนำของโลก” และ จีน “ผู้นำการเติบโตของเศรษฐกิจโลก”

#ของมันต้องขึ้น แม้ไม่มีทางรู้ว่าราคาจะขึ้นหรือลงเท่าไหร่ในอนาคต แต่เราเลือกใช้คำแรง “ต้อง” เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นในตรรกะที่ชี้นำการตัดสินใจเน้นและย้ำความสำคัญของ 2 โอกาสลงทุนดังนี้

ของมันต้องขึ้น 1) KT-WTAI (KTAM World Technology Artificial Intelligence Equity) “เทคฯ เหนือกว่า ทอง”

ทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ใกล้ $2,000 ดึงดูดความสนใจของชาวโลก ปัจจุบันมีนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่เริ่มคุ้นเคยกับปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญอย่าง real yield (ยีลด์แท้จริง หาดูได้จากตลาดบอนด์เช่น TIPS 10Y อ่านเพิ่มเติมได้ใน “Mother of All Factors” 15 มี.ค.) โดยรู้กันทั่วไปแล้วว่า “ราคาทองมักเป็นขาขึ้นเมื่อยีลด์แท้จริงเป็นขาลง” …เรากลับสนใจสินทรัพย์ซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยคล้ายกัน แต่ตั้งอยู่บน “ตรรกะของขาขึ้น” ที่ง่ายและได้เปรียบกว่าทองคือ กองทุนหุ้น megatrend เช่น KT-WTAI เพราะเชื่อว่าหุ้นเติบโตสูงเหล่านี้จะวิ่งเป็นกระทิงได้โดยอาศัยเพียงภาวะ “ยีลด์ต่ำยาวนาน” ไม่จำเป็นต้องลุ้นให้ยีลด์ปรับตัวลงต่อไปเรื่อยๆแบบทอง… แค่ยีลด์นิ่งๆหรือขึ้นไม่แรงก็พอแล้วที่จะสนับสนุนให้ราคาหุ้นเทคฯเป็นขาขึ้น (อ่านเพิ่มเติม “INFINITY แพงซะที่ไหน” 24 พ.ค.) ความคุ้มค่าการลงทุนหุ้น “เทคฯ” จึงเหนือกว่า “ทอง” ในมุมมองของเรา

ของมันต้องขึ้น 2) KT-Ashares (IPO 29 ก.ค. – 5 ส.ค. เริ่มซื้อขายปกติ 11 ส.ค.) “หุ้นจีน ‘จำเป็น’ ต้องขึ้น”

หุ้นจีน “จำเป็น” ต้องปรับตัวขึ้น ในระยะยาว เพื่อให้เกิด wealth effect (หุ้นขึ้น เพิ่มความมั่งคั่งแก่ประชาชน ทำให้กล้าจับจ่ายใช้สอย อ่านเพิ่มเติม “Healthy Bull Ashares” 26 ก.ค.) สนับสนุน “การบริโภค” ซึ่งเป็นหัวใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนยุคปัจจุบันและอนาคต A-shares หุ้นจีนในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น market cap ใหญ่มาก พากันตบเท้าเข้าสู่ดัชนีระดับโลกในสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ หนุนแนวโน้มความต้องการ A-shares ในหมู่นักลงทุนสถาบัน ตลาดหุ้นจีนสภาพคล่องซื้อขายสูงมาก มีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยสูง เปิดทางให้ผู้จัดการกองทุนที่บริหารเชิงรุก (active) มีโอกาสดีในการสร้างผลตอบแทนชนะดัชนี กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า เอแชร์ อิควิตี้ ฟันด์ (KT-Ashares) ลงทุนใน Allianz Global Investors Fund – Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) share class PT สกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยกองทุนหลักได้ Morningstar 5 ดาว (31 พ.ค. 63) นอกจากนี้ผู้บริหารกองทุนคือ Allianz ได้รางวัล Best of The Best Awards (3 ปี) ในหมวด China A-Share Equity โดย Asia Asset Management (เม.ย. 2020)

คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

คลิ๊กอ่าน

KTAM Focus : Mother of All Factors

คอลัมน์ KTAM Focus : Healthy Bull Ashares