TQM กำไร 163 ลบ. โต 33% ปันผล 1 บาท จ่อปิดดีลร่วมทุนประกันกัมพูชา-ลาวปีนี้

HoonSmart.com>> “ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น” โชว์ไตรมาส 2/63 กำไร 163 ล้านบาท โต 33% หนุนครึ่งปีนิวไฮ กวาดยอดขายประกันเพิ่มทุกช่องทาง เร่งเดินหน้าเจรจาร่วมทุนประกันภัย กัมพูชา-สปป.ลาว คาดปิดดีลภายในปีนี้ และ M&A ในประเทศ 2 บริษัท พร้อมเตรียมตั้งบริษัทรับเคลม รองรับตลาดประกัน A&H ในประเทศพุ่ง เสริมความแข็งแกร่งงานด้านบริการแบบครบวงจร บอร์ดอนุมัติปันผลระหว่างอัตรา 1 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 21 ส.ค.นี้

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา

บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 กำไรสุทธิ 162.90 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท เพิ่มขึ้น 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 122.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.41 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 342.25 ล้านบาทกำไรต่อหุ้น 1.14 บาท เพิ่มขึ้น 49.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 229.04 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.76 บาท

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2563 อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด (งวด 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 63) จำนวน 1 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 99% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (Record date) วันที่ 24 ส.ค.2563 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย.2563 หลังภาพรวมผลประกอบการครึ่งแรกปี 2563 เติบโตโดดเด่น

บริษัทฯ มีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกจำนวน 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.5 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ (นิวไฮ) ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการ 16.7 % แตะ 1,543 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายประกันภัยเกือบทุกประเภทเติบโตขึ้นในทุกช่องทาง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการครึ่งปีแรกอยู่ที่ 769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการให้บริการ บริษัทฯ จึงสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ไว้ได้ในระดับสูงที่ 50.2% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 375 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ในระดับ 21.8%

ดร.อัญชลิน กลาวว่า สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลังมั่นใจเติบโตโดดเด่นและแข็งแกร่งมากขึ้นจากครึ่งปีแรก จากแผนงานที่เตรียมไว้ทั้ง Organic Growth และ Inorganic Growth โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุน (M&A) กับประกันภัยในประเทศกัมพูชาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เบื้องต้นคาดจะสามารถปิดดีลได้ภายในปีนี้ พร้อมเดินหน้าเจรจา M&A ภายในประเทศ 2 บริษัท รวมไปถึงการเตรียมตั้งบริษัทรับเคลมประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ (A&H) รองรับตลาดประกันสุขภาพภายในประเทศที่กำลังเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากแนวโน้มอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้ถึงความสำคัญในการซื้อประกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนับเป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งงานด้านบริการแบบครบวงจร

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ผนึกความร่วมมือพันธมิตรคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆต่อเนื่อง โดยล่าสุดเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง “ประกันสุขภาพ” ต่อยอดความสำเร็จจากประกันสุขภาพเฉพาะกลุ่ม และประกัน “Unemployment” เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงประกันให้กับกลุ่มคนว่างงาน รวมไปถึงการผนึกความร่วมมือบริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด นำ Big Data มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำเสนอประกันภัยบ้านรูปแบบใหม่ได้ตรงความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ ต่อยอดการเติบโตช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ให้โดดเด่นและแข็งแกร่งขึ้นจากครึ่งปีแรก