AGE ครึ่งปีหลังรุกหนักตลาดถ่านหินทั้งใน-ตปท.มั่นใจยอดขายโตตามเป้า

HoonSmart.com>> “เอเชียกรีน เอนเนอจี” รุกธุรกิจถ่านหินและโลจิสติกส์ขนส่งครึ่งปีหลังต่อเนื่อง เล็งเพิ่มศักยภาพทีมบุคลากรเจาะตลาดถ่านหิน เวียดนาม ด้านธุรกิจขนส่งทางน้ำ – ทางบก ส่งสัญญาณเชิงบวก เตรียมขยายท่าเรือที่ 4 เพิ่ม สร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการให้บริการครอบคลุมเชิงรุกครบวงจร ด้าน CEO “ พนม ควรสถาพร” ย้ำ กำไรสะสมในมือกว่า 700 ล้านบาท สถานะการเงินปึ๊ก ผลงานครึ่งปีรายได้รวม 3,388.6 ล้านบาท เพิ่ม 0.7% กำไรสุทธิลดพิษโควิด-19

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายแผนการลงทุนทั้งธุรกิจถ่านหินและธุรกิจโลจิสติกส์ด้านการขนส่ง อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นทำการตลาดเชิงรุกเพื่อเจาะตลาดในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม ซึ่งบริษัทฯได้มีการเพิ่มศักยภาพทีมบุคลากรบุกตลาดเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่มีการลงทุนก่อสร้างคลังถ่านหินและโรงงานคัดแยก ที่มีระบบบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในประเทศเวียดนาม พื่อรองรับความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มในเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังวางกลยุทธ์บุกตลาดกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างต่อเนื่อง และเร่งขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นโดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อบิ๊กล็อต (Big Lot) จำนวน 1.2 ล้านตันเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทยอยส่งมอบในครึ่งปีหลังของปีนี้ถึงต้นปี 2564

“บริษัทฯ วางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม ที่เรามีความพร้อมของคลังสินค้าในประเทศดังกล่าวอยู่แล้ว และขยายตลาดกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมองว่า กลุ่มประเทศดังกล่าวยังคงมีความต้องการใช้ถ่านหินอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากยอดนำเข้าถ่านหินของประเทศเวียดนาม ในช่วงครึ่งปี 2563 ที่อยู่ที่ 31 ล้านตัน ซึ่งจากปัจจัยนี้ ทำให้ AGE จึงเร่งเดินหน้าขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น”นายพนม กล่าว

นายพนม กล่าวว่า สำหรับการขยายการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ด้านการขนส่งว่า ปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์โดยเฉพาะด้านขนส่งทางน้ำ – ทางบก มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทฯ ได้มีการทำสัญญาเพื่อขนส่งสินค้าให้กับ กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ปริมาณรวม 2 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 340 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการเพิ่มจำนวนเรือลำเลียงในปี 2563 ครบ 36 ลำ และมีรถบรรทุกครบทั้งหมด 51 คัน พร้อมทั้งเตรียมขยายท่าเรือที่ 4 ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของบริษัทที่ครอบคลุมการให้บริการที่ครบวงจร

ส่วนการลงทุนของบริษัทร่วมทุน ภายใต้ บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด นั้นมองว่า ครึ่งปีหลัง คาดว่าการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงปลายปี สำหรับธุรกิจจำหน่ายไอน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการและติดตั้ง Boiler ขนาด 6 ตัน เพื่อผลิตไอน้ำในกระบวนการผลิต คาดว่าจะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ในช่วงปลายปีนี้เช่นเดียวกัน

ในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่ายอดขายถ่านหินจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ระดับ 3.5 ล้านตัน ตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 10% ของรายได้รวม พร้อมกันนี้หากพิจารณาด้านฐานะทางการเงินของบริษัทฯ นายพนม กล่าวว่า บริษัทฯมีความแข็งแกร่ง ด้านสภาพคล่องทางการเงินอย่างมาก โดยเห็นปัจจุบันมีกำไรสะสมในมือสูงถึงกว่า 700 ล้านบาท ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.87 เท่า ซึ่งบริษัทฯ พยายามรักษาระดับไม่เกิน 2 เท่า สาเหตุที่บริษัทฯมีสภาพคล่องที่ดี เป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนและบริหารความเสี่ยงที่ดีในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างแผนศึกษาขยายการลงทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคตเพิ่มเติม

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2563 มีรายได้ 1,342.7 ล้านบาท ลดลง 21.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 10.2 ล้านบาท ลดลง 85.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 71.2 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2563 ของบริษัทมีรายได้รวม 3,388.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 3,365.3 ล้านบาท และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 51.3 ล้านบาท ลดลง 66.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 151.8 ล้านบาท