อุตสาหกรรมอาหารไทย การ์ดดี ไม่มีตก ผลิตอาหารปลอดภัย ได้ต่อเนื่อง
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ( CPF ) ชี้แจงกรณี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เรื่อง “โควิด-19 กับอาหารแช่แข็ง” ว่า เป็นข้อเตือนใจการซื้ออาหารแช่แข็ง ต้องให้ความสำคัญกับสุขอนามัยเสมอ
CPF ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหาร ยังตั้งการ์ดป้องกันเหนียวแน่นมาตลอด แม้สถานการณ์โควิด-19 ในไทยเริ่มผ่อนคลาย แต่บริษัทยังคงใช้มาตรการป้องกันสูงสุด เพื่อให้อาหารปลอดภัยตั้งแต่ต้นทาง จนถึงมือผู้บริโภค
CPF ได้ศึกษาและถอดบทเรียนจากโมเดลความสำเร็จของซีพี ในอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่สามารถป้องกันโรคระบาด สร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงาน พร้อมทั้งผลิตอาหารให้ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในจุดศูนย์กลางของการระบาด จนเป็นที่มาของการยกระดับมาตรการควบคุมด้านสุขอนามัย และครบวงจร ตั้งแต่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์ โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูป ไปจนถึงพนักงาน ระบบการขนส่งและการกระจายสินค้า
โรงงานแปรรูปอาหาร CPF ได้ติดตั้งประตูสแกนอุณหภูมิร่างกายแบบเดินผ่าน ช่วยคัดกรองอุณหภูมิแม่นยำยิ่งขึ้น ส่งเสริมการใส่หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือเป็นประจำ เพิ่มความถี่ในการฆ่าเชื้อในพื้นที่และจุดที่สัมผัสบ่อย เพิ่มการขนส่งด้วยระบบสายพานเพื่อลดการสัมผัสของพนักงาน กำหนดระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพิ่มจำนวนรถรับส่งพนักงาน เพื่อให้ได้นั่งบนรถแบบเว้นระยะห่าง
นอกจากนี้ ฟาร์มสุกรทั้งหมดของ CPF เลี้ยงด้วยระบบไบโอ ซีเคียวริตี้ ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ฟาร์ม เช่น เลี้ยงในระบบโรงเรือนปิด ที่ควบคุมอุณหภูมิ ด้วยอาหารสัตว์ที่สามารถตรวจสอบแหล่งวัตถุดิบโดยรับจากแหล่งที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อเท่านั้น มีระบบฆ่าเชื้อรถขนส่ง กำหนดจุดส่งมอบสินค้าแยกจากฟาร์ม
ร้านซีพี เฟรชมาร์ท พนักงาน CP Freshmart Delivery จัดส่งอาหาร โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความเสี่ยงติดเชื้อ อาทิ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานทุกวัน การเว้นระยะห่างในการส่งสินค้าแก่ผู้รับบริการ และส่งเสริมการชำระค่าบริการทางดิจิตอล
ทั้งนี้ CPF ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์ฮอตไลน์ โควิด19” (CPF Covid-19 hotline) เพื่อให้พนักงานสอบถามข้อมูลและแจ้งอาการป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีล่ามให้พนักงานต่างชาติ เพื่อทำความเข้าใจพนักงานทุกคน ทุกระดับ สร้างความมั่นใจในการทำงาน
จากความสำเร็จในอู่ฮั่น สู่ประเทศไทย CPF ได้ส่งต่อองค์ความรู้เหล่านี้ ไปยังกิจการในต่างประเทศ จนทำให้ธุรกิจของบริษัททั่วโลก สามารถส่งมอบอาหารปลอดภัย สร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศของตน ตามวิสัยทัศน์การเป็น “ครัวของโลก”.
