ALT พี/อี ลดฮวบเหลือ 18 เท่า ได้เวลาเก็บหุ้นหรือยัง ???

HoonSmart.com>>เอแอลที เทเลคอม พี/อี ลดฮวบเหลือ 18 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ราคาหุ้นปรับตัวลงหลุด 4 บาท ถึงเวลาซื้อหรือยัง ??? ด้าน ” ปรีญาภรณ์ ” บิ๊ก ALT ชี้ การขายธุรกิจเข้าบริษัทร่วมทุน SIC มีแต่ได้กับได้ ได้ RATCH เป็นพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่ง  มั่นใจธุรกิจเดินตามแผน

ราคาหุ้นบริษัท เอแอลที เทเลคอม (ALT) ก่อนหน้านี้ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากหุ้นราคา 1 บาท ขึ้นมาทำนิวไฮ 4.22 บาท  รับข่าวผลดำเนินงานไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 45 ล้านบาท และครึ่งปีแรก กำไร 233.90 ล้านบาท เข้าสู่โหมดการเทิร์นอะราวน์ชัดเจน

แต่หลังจากประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้น ปรับตัวขึ้นรับข่าวดีเพียงสั้น ๆ 4.22 บาท เมื่อวันที่ 13 ส.ค. และวันเดียวกันราคาหุ้นได้ปรับตัวลงต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน ตั้งแต่ 13.18 ส.ค. หลุด 4 บาท ลงมาต่ำสุด 3.24 บาท (18 ส.ค.) ลดลง  0.98 บาท หรือ 23.22 % จากราคาสูงสุด 4.22 บาท ล่าสุด ราคาปิดที่ 3.30 บาท  ลดลง 0.26 บาท หรือ 7.30 %  บาท  มูลค่าซื้อขาย 33.41 ล้านบาท

ระดับราคา ALT ดังกล่าว มีค่าพี/อี 18 เท่าเศษ เท่านั้น โดยลดลงจากระดับ 35 เท่าก่อนหน้ากำไรไตรมาส 2 ออก

พี/อี ที่ลดลง ฮวบฮาบ  เทียบพี/อี กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ย้อนหลัง 4 ไตรมาส ซึ่งรวมไตรมาส 2 แล้ว เฉลี่ย 19.87 เท่า จึงถือว่า พี/อี ALT ต่ำกว่ากลุ่มเล็กน้อย ซึ่งโอกาสที่ พี/อี จะลดลงต่ำอีก หากผลประกอบการไตรมาส 3-4 ออกมาเติบโตต่อเนื่อง

ส่วนความกังวลการขายธุรกิจใยแก้วนำแสงตามแนวทางรถไฟและทางหลวง รวมทั้งโครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน ผ่านท่อใต้ดิน ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) บนถนน 3 เส้นหลัก ” ถนนสุขุมวิท-ถนนพหลโยธิน-ประดิพัทธ์ – ถนนพญาไท ” เข้าบริษัทร่วมทุน ” สมาร์ท อินฟราเนท (SIC) ระหว่าง ALT กับ ราชกรุ๊ป (RATCH) สัดส่วน 49% และ 51 % ตามลำดับ  จะส่งผลต่อรายได้และกำไร ในอนาคตของ ALT

เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) กล่าวว่า ราคาหุ้น ALT ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลายเดือน นักลงทุนรายใหญ่ ที่เข้าไปเก็บหุ้นลุ้นผลประกอบการเทิร์นอะราวน์ เมื่อประกาศงบจบ คาดว่า ขายทำกำไรออกมา ซึ่งระดับราคา 3 บาทต้น ๆ นี้ ยังมีกำไร

นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ ALT กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัทยังปกติ เชื่อว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง เป็นผลจิตวิทยาหลังประกาศงบไตรมาส 2 และราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนความกังวล การขายทรัพย์สิน เข้า SIC ทรัพย์สินไม่ได้ลดลง หรือหายไป แต่เป็นการเปลี่ยนทรัพย์สินไปเป็นเงินลงทุน  และทำให้ SIC มีกำลังลงทุน ส่งผลดีกับ ALT ในด้านดีกว่าเสีย คือ มีพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในเงินลงทุน ได้เดินตามแผนงานที่วางไว้ด้วยความมั่นใจ

มีการวิเคราะห์กันว่า ภายหลังโอนทรัพย์สิน โครงข่ายใยแก้วนำแสง 2 โครงการให้บริษัทร่วมทุน SIC มันได้ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ในงบการเงินของ ALT เป็นอย่างไร ?

ทรัพย์สินในงบการเงินของ ALT ได้เพิ่มขึ้นทั้งใน เชิงของจำนวนตัวเงิน และ คุณภาพของทรัพย์สิน จำนวนตัวเงินเพิ่มขึ้น (quantity increment) เพราะมีกำไรจากจำหน่ายทรัพย์สินมูลค่ารวมของสินทรัพย์บริษัทไม่ได้ลดลง แต่จะมียอดเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีกำไรจากการขายทรัพย์สิน ซึ่งเป็นมูลค่าส่วนใหญ่ของรายได้อื่นในงบกำไรขาดทุนไตรมาส 2/2563 หุ้นใน 49% ใน SIC มูลค่า 269 ล้านบาท

เพียงแต่หลังการทำรายการ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหมวดรายการบัญชีในงบดุล กล่าวคือ รายการบัญชีจะย้ายจากหมวดรายการเดิมคือ โครงข่ายใยแก้วนำแสง ไปเป็นเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะอยู่ในรูปของเงินสด

ราคาขายโครงข่ายใยแก้วนำแสง 530 ล้านบาท  ราคาทุนโครงข่ายใยแก้วนำแสง 440 ล้านบาท  เงินสด จำนวน 262 ล้านบาท

แต่ทั้งนี้ รายการบันทึกบัญชีในงบดุล จะมีการจัดหมวดรายการใหม่ในระหว่างทาง ตามลำดับความสำเร็จของกิจกรรม กล่าวคือ 31 ธ.ค. 2562​ จะปรากฏอยู่ในหมวดรายการ โครงข่ายใยแก้วนำแสง 31 มี.ค. 2563 ​จะถูกโอนย้ายรายการเป็น สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขาย 30 มิ.ย.2563​ เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน แต่ยังไม่ได้ชำระราคา บริษัทได้รับรู้กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินในงบ ​​กำไรขาดทุน และ รายการลูกหนี้อื่นในงบดุล
30 ก.ค. 2563 ​ALT ได้รับการชำระราคาจากผู้ซื้อทั้งในส่วนหุ้นสามัญ 49% ของ SIC มูลค่า 269 ล้านบาท และ เงินสดอีกจำนวน 262 ล้านบาท

ฉะนั้น ณ สิ้นไตรมาส 3 จะเปลี่ยนรายการในงบดุลจากลูกหนี้อื่น เป็นเงินลงทุนใน​​กิจการร่วมค้าและเงินสด ตามจำนวนข้างต้นคุณภาพของทรัพย์สินสูงขึ้น เพราะเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจ ด้วยการผนึกกำลัง (Synergy) กับ พันธมิตร การจำหน่ายทรัพย์สินของ ALT ถือเป็นการปรับโครงสร้างกิจการ จึงเป็นผลดีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ระยะสั้น​บริษัทจะมีสภาพคล่องสูงขึ้น จากยอดเงินสดที่ได้รับชำระจาก SIC ซึ่งในยามนี้ เงินสดและสภาพคล่อง ถือเป็นปัจจัยสำคัญของทุกกิจการ อีกทั้งเกิดผลกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินในทันที ที่ปรากฏอยู่ในยอดรายได้อื่นของงบการเงินไตรมาส 2/2563
ในระยะยาว ​จะมีเป็นผลดีในเชิงยุทธศาสตร์ขององค์กร ที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจได้ว่า ย่างก้าวที่ ALTกำลังเดินไป มีโอกาสในทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมรองรับ และเป็นโอกาสที่กว้างขวางขึ้น

จากเดิมที่จำกัดตีกรอบอยู่แค่เพียงธุรกิจโทรคมนาคมเท่านั้น หลังจากการร่วมทุนกับ RATCH จะช่วยเปิดภูมิทัศน์ทางธุรกิจให้แผ่ขยายออกไปสู่กิจการด้านไฟฟ้า ซึ่งเป็นกิจการที่ถือเป็น Rising Star ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงไปสู่ธุรกิจ Smart Grid และ Smart City อันเป็นยุทธศาสตร์หลักของกิจการ

เมื่อรู้ข้อมูลแล้ว ราคาหุ้นปรับตัวลงเยอะ ช่วงนี้ถือะเป็นจังหวะดีในการเข้าลงทุน