TPCH จ่อปิดดีลโรงไฟฟ้า 2-3โรง ไตรมาส 3 โตโดดเด่น

HoonSmart.com>>”ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง” เตรียมสรุปดีลซื้อโรงไฟฟ้าชีวมวล 2-3 โรง สิ้นปี 63  หวังเพิ่มกำลังการผลิตตามเป้า 250 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมี 110 เมกะวัตต์ แนวโน้มไตรมาส 3-4 เติบโตต่อ รับรู้ COD เต็มที่  ปี 64 ลุยประมูลโรงไฟฟ้า SP 4,5 ต่อ หวังได้ IRR 15-20%  

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะสรุปการเจรจาโครงการไฟฟ้าชีวมวลประมาณ 2-3 โรงภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 โครงการ และในภาคใต้อีก 1 โครงการ เพื่อเพิ่มโรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ และโรงไฟฟ้าขยะในพอร์ตให้เป็นไปตามเป้าหมาย 250 เมกะวัตต์ (MW) ปัจจุบันมีประมาณ 110 เมกะวัตต์

ประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/2563 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD)  ของโรงไฟฟ้าชีวมวลเดิม จำนวน 7 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 83 เมกะวัตต์ (MW) ส่วนไตรมาส 4 จะเริ่มรับรู้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 1 ,2 และ 5 (TPCH1,2,5) กำลังการผลิตรวม 26 เมกะวัตต์ ที่เลื่อน COD จากไตรมาส 3 เนื่องจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้วิศวกรไม่สามารถเดินทางมาตรวจโรงงานได้ และโรงไฟฟ้าขยะ สยาม พาวเวอร์ 1 (SP1) กำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ในไตรมาส 1/64

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะ สยาม พาวเวอร์ 2-6 กำลังการผลิตรวม 38.5 เมกะวัตต์ คาดจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 15-20% ปัจจุบันรอความชัดเจนลักษณะขอบเขตงาน (TOR) เข้าร่วมประมูลงานบริหารจัดการขยะ ส่วนโรงไฟฟ้า SP 2,3 คาดมีข้อสรุปในไตรมาส 4 และในปี 64 คาดได้ข้อสรุปการประมูลโรงไฟฟ้า SP 4,5

นางกนกทิพย์ กล่าวว่า แนวโน้มในปีหน้าจะมีการลงทุนที่สูงขึ้น เรื่องแหล่งเงินทุนอยู่ระหว่างการเจรจาหลายช่องทาง อาทิ การออกหุ้นกู้ หรือรูปแบบอื่นๆ ปัจจุบันให้บริษัททริสเรทติ้งทบทวนอันดับเครดิต  นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย (SET) แต่ขอเตรียมความพร้อมก่อน คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2564 หรือ 2565

ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯมีรายได้รวม  832.42 ล้านบาท กำไรสุทธิ  178.65 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/63 มีรายได้รวม  439.06 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ  92.93 ล้านบาท