SK ตั้งราคาขายหุ้น 0.80 บาท เปิดจอง 28-30 ก.ย.

HoonSmart.com>>“ศิรกร” เสนอขาย 115.35 ล้านหุ้น เคาะราคา  IPO ที่ 0.80 บาท  คาดเข้าเทรด mai  8 ต.ค. นี้  มั่นใจได้รับความสนใจจองซื้อจำนวนมาก  P/E 8 เท่า มีศักยภาพแข็งแกร่ง โรงงาน 6 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ จ่อรับงานประมูลเพิ่มหลังระดมทุน  รายได้ปี 63 ทรงตัวจากปีก่อนทำได้ 677 ล้านบาท มั่นใจปี 64 โตได้ 

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท ศิรกร (SK) เปิดเผยว่า บริษัท ศิรกร  กำหนดราคาขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(IPO) ที่ 0.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ) 8 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ที่ P/E 11.38 เท่า โดย SK จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่  28-30 ก.ย. มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมากและคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในวันที่ 8 ต.ค. 2563 ในหมวดวัสดุก่อสร้าง

การระดมทุนในครั้งนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 115.35 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท คิดเป็น  25.08% ของจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้ว 230 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน จำนวนไม่เกิน 106.85  ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการและผู้บริหารและพนักงานบริษัทฯจำนวนไม่เกิน 8.50 ล้านหุ้น

“การกำหนดราคาขายที่ 0.80 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแนวโน้มการเติบโตโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ” นายกิตติพันธ์ กล่าว

นายวีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน เปิดเผยว่า  SK เป็นกลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ในการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง และให้บริการรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้าและงานรับเหมาก่อสร้างโยธา โดยมีศักยภาพมีความแข็งแกร่ง คือ การมีโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายคอนกรีตอัดแรง 6 แห่งที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดชลบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดลำปาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกัน

ส่วนธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้านั้น SK สามารถเข้าร่วมประมูลงานสายส่ง สูงสุดขนาด 115 KV ของ กฟภ. และ กฟผ. ประกอบกับปัจจุบันเป็นผู้ประกอบการค้าร่วม(Consortium) กับบริษัท คินเด้น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ในการรับเหมาระบบสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV ของ กฟผ. ซึ่งในอนาคต SK จะสามารถเข้าร่วมประมูลงานรับเหมาระบบสายส่งขนาด 230 KV ได้ด้วยตนเอง ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโยธา บริษัทฯมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในการรับเหมาก่อสร้าง อาทิ งานก่อสร้างอาคาร Workshop อาคารปฏิบัติการเคมี โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เป็นต้น

ด้านนายภากร ตั้งนุกูลกิจ กรรมการบริษัทและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิรกร (SK) เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ประมาณ 92.28 ล้านบาท โดยประมาณ 70 ล้านบาท ใช้เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศ โดยบริษัทฯ มีแผนจะเข้าประมูลงานรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้าและงานรับเหมาก่อสร้างโยธาทั้งในส่วนของภาครัฐ และเอกชน มูลค่างานละประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐประมาณ 80% และอีก 20% เป็นภาคเอกชน โดยเอกชนส่วนใหญ่ก็ส่งมอบงานให้ภาครัฐต่ออีกที

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าในปี 2563 รายได้จะใกล้เคียงจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 677.07 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น งานที่ส่งมอบล่าช้าจากผลกระทบโควิด-19 เริ่มทยอยส่งมอบ และมีการเข้ารับงานใหม่ๆเพิ่มขึ้น  ส่งผลให้ปี 2564 จะมีผลประกอบการที่เติบโต