เอ็มเอฟซี จับมือ บล.เคทีบี ออกกองโกลบอล ศุกูก ครั้งแรกในไทย

บลจ.เอ็มเอฟซี ร่วมมือกับ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดตัวกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) กองทุนแรกของไทยที่ลงทุนในตราสารศุกูกตามหลักศาสนาอิสลาม ตอบโจทย์ชาวมุสลิมต้องการสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ย

นางพัณณรัชต์ บรรพโต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี กล่าวว่า กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) เป็นกองทุนแรกของไทยที่ลงทุนในตราสารศุกูก (Islamic Fixed Income) ตามหลักของศาสนาอิสลาม ซึ่งตราสารศุกูกเป็นตราสารแสดงสิทธิในการได้รับผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง ได้รับผลตอบแทนคงที่ (Fixed Rate) จากการถือตราสารศุกูก โดยไม่ใช่ดอกเบี้ย เช่น ค่าเช่า หรือส่วนแบ่งกำไร

กองทุน M-SUKUK จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AZ Multi Asset MAMG Global Sukuk Fund ชนิด unit class A-ME (USD ACC) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพียงกองทุนเดียว โดยที่กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารศุกูก รวมถึงหลักทรัพย์ภาครัฐ และหรือหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ หลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หลักทรัพย์ภาคเอกชน และหรือหลักทรัพย์แปลงสภาพ ที่สอดคล้องตามหลักชารีอะห์ ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบจากคณะที่ปรึกษาชารีอะห์ของกองทุนตามแนวทางที่กำหนด

“คาดว่า ทั่วโลกมีความต้องการลงทุนในตราสารศุกูกสูงกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ขณะที่มีตราสารศุกูกออกมาเพียง 1.3 ล้านล้านบาท ทำให้มีโอกาสที่ราคาตราสารศุกูกจะสูงขึ้นได้ ขณะที่ความเสี่ยงและความผันผวนต่ำกว่าตราสารหนี้ทั่วไป เพราะมีสินทรัพย์อ้างอิงและนักลงทุนมีฐานะเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงนั้น” ดร.ชาญวุฒิ รุ่งแสงมนูญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายตราสารหนี้ต่างประเทศ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าว

ทั้งนี้ กองทุน M-SUKUK เป็นความร่วมมือกันระหว่าง บลจ.เอ็มเอฟซี และ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร KTBST กล่าวว่า จากการให้บริการที่ปรึกษาการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม พบว่า นักลงทุนชาวมุสลิมในประเทศมีทางเลือกลงทุนค่อนข้างจำกัด เห็นได้จากสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้คำแนะนำ (AUA) ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะลงทุนอยู่หุ้นเท่านั้น จึงร่วมกับ บลจ.เอ็มเอฟซี ผลักดันการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ คือ กองทุน M-SUKUK

นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ KTBST กล่าวว่า ภาวะตลาดการลงทุนในตอนนี้ มีความผันผวนมาก ดังนั้นจัดสรรพอร์ตลงทุนในช่วงนี้จึงต้องเน้นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งตราสารหนี้ศุกูกก็เป็นอีกสินทรัพย์ที่น่าสนใจในแง่การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่คาดหวังสูงกว่าเงินฝาก มีสภาพคล่องสูง และมีค่าสหสัมพันธ์กับตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ ต่ำซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้

“ในขณะที่เงินฝากให้ผลตอบแทนประมาณ 0.8% แต่กองทุนศุกูกให้ผลตอบแทนในปี 2560 อยู่ที่ 4.47% ต่อปี จึงเหมาะจะเป็นที่พักเงินในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง แต่แนะนำให้ลงทุนเพียง 5-10% เท่านั้น สำหรับนักลงทุนที่ไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ เพราะในบางช่วงผลตอบแทนอาจจะติดลบได้” นายชาตรี กล่าว

นายอรุณ บุญชม ประธานคณะกรรมการชะรีอะฮ์ KTBST กล่าวว่า กองทุน M-SUKUK ถือเป็นมิติใหม่ของการลงทุนของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนมุสลิม ไม่สามารถลงทุนในตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ได้ เพราะให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ซึ่งเป็นข้อห้ามของศาสนาอิสลาม แต่ตราสารศุกูก ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ ให้ผลตอบแทนเป็นไปตามหลักการของศาสนาอิสลาม โดยมีความเสี่ยงเทียบเคียงกับตราสารหนี้ทั่วไป แต่ในประเทศไทยยังไม่มีบริษัทใดออกตราสารศุกูก

ทั้งนี้ กองทุน M-SUKUK เปิดขายครั้งแรกวันที่ 11-31 กรกฎาคม 2561 ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกได้ตั้งแต่ 10,000 บาท หลังการเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด M-SUKUK จะเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ