TEAMG หุ้นมั่นคงและเติบโต พร้อมลงสนามเทรด 12 ก.ค.นี้

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจะมีหุ้นน้องใหม่ แต่มีอายุ 40 ปี พอดิบพอดีเข้ามาจดทะเบียนและซื้อขายในวันที่ 12 ก.ค. 2561 ชื่อ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) เบอร์ 1 ของประเทศไทย ในธุรกิจที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ และจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว

“ประเสริฐ ภัทรมัย” ประธานกรรมการบริษัท บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) มั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และมีความพร้อมในการนำหุ้นเข้าซื้อขายในวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันเกิดในปีที่ 40 จุดแข็งเห็นได้จากผลงานที่ผ่านมาและการเติบโตในระยะยาว บริษัทมีกำไรมาโดยตลอด 39 ปี ยกเว้นปีแรกที่เพิ่งเปิดดำเนินงาน และจ่ายเงินปันผลทุกปี ไม่นับรวมปีแรกและปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ 2540 เพื่อเตรียมสภาพคล่องไว้ให้พร้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ประเสริฐ ภัทรมัย

ความสำเร็จของบริษัทมาจากหลายเหตุผล ทีม คอนซัลติ้งฯเกิดขึ้นมาจากการรวมตัวของบุคคลในหลากหลายอาชีพ มีทั้งวิศวกร สถาปนิก นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิชาการ เพื่อให้บริการในธุรกิจที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ ขณะที่บริษัทในประเทศไทยให้บริการเฉพาะด้าน ทำให้บริษัทไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจโดยตรง

นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาบุคคลากร เพิ่มความรู้ความสามารถหลากหลาย ขณะนี้มีพนักงานทำงานประจำประมาณ 1,500 คน และองค์กรที่มีอายุ 40 ปีมีการสะสมองค์ความรู้มหาศาล(Stock of knowledge) รวมถึงมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงมากมาย สามารถนำไปต่อยอดในงานที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ

“ประเสริฐ”ยังกล่าวอีกว่า การให้บริการแบบครบวงจร นอกจากจะต้องมีความรู้เรื่องงาน เรื่องเทคนิค และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังต้องร่วมมือประสานงานกับบุคคลและหน่วยงานจำนวนมาก ทีม คอนซัลติ้งฯก็สามารถประสานงานกับคนในพื้นที่ หน่วยงานอื่นๆได้เป็นอย่างดี เพื่อให้โครงการเกิดขึ้นมาได้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการมีพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากด้วย

ความแข็งแกร่งของบริษัทและโอกาสทางธุรกิจของทีมฯ เตะตานักลงทุนต่างประเทศ ที่ผ่านมา มีบริษัทหลายแห่งติดต่อมาขอซื้อบริษัทฯ มาขอซื้อหุ้นเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ตลอด ทั้งจากสิงคโปร์ ออสเตรเลียและญี่ปุ่น แต่ไม่ขาย เพื่อต้องการส่งต่อธุรกิจรุ่นต่อรุ่น ปัจจุบันเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 แล้ว โดยมีกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานร่วมถือหุ้น จำนวน 96 คน

และขณะนี้มีความพร้อมในการเข้าตลาดหุ้น หลังจากมีคนมาชักชวนถึง 2 ครั้ง เป้าหมายหลักของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เรื่องสำคัญอันดับแรกคือต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้อิมเมจของบริษัทดีในต่างประเทศ ตามด้วยการมีกฎ กติกาของตลาด เข้ามาดูแลการทำงานของบริษัท ส่วนเรื่องเงินเป็นเรื่องรอง

“ทีมฯสร้างผลงานที่ผ่านมาหลายพันโครงการ ผมชอบงานการเป็นที่ปรึกษาโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ(หนองงูเห่า) มากที่สุด เพราะเริ่มต้นวางแผน ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ตอนผมอายุ 26 ปี หลังจากนั้นก็หยุดไป และเพิ่งกลับมาทำใหม่ ตอนอายุ 60 ปี ปัจจุบันอายุ 71 ปี ยังได้เป็นที่ปรึกษาในการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ต่อ” ประเสริฐกล่าว

ส่วน“ชวลิต จันทรรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) ชอบผลงานการเป็นที่ปรึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี สปป.ลาว เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ งานมีคุณภาพระดับสากล ทำให้ต้องคิดไปแก้ปัญหาไป ขณะนี้ใกล้สำเร็จแล้ว เราทำโครงการไซยะบุรีได้ เพราะผ่านการเป็นที่ปรึกษาในการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศหลายโครงการ เช่น เขื่อนขุนด่านปราการชล รวมถึงโรงไฟฟ้าในสปป.ลาวด้วย

ชวลิต จันทรรัตน์

“งานที่ปรึกษา อยู่ที่ความน่าเชื่อถือ การที่เราออกแบบ ดูแลการใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ควบคุมการก่อสร้างหลายโครงการ และทำได้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ผลงานที่ผ่านมาประมาณ 2,500 โครงการ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 50 แห่ง และกำลังทำอยู่อีก 300 โครงการ เช่น สถานีกลางบางซื่อ รถไฟฟ้าสีต่างๆ จะช่วยให้สามารถต่อยอดโครงการที่ยากและใหญ่ยิ่งขึ้น ”

แนวโน้มบริษัทจะขยายงานออกไปต่างประเทศมากขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุม 10 ประเทศ จากปัจจุบันดำเนินงานอยู่ใน 7 ประเทศ ในซีแอลเอ็มวี เช่นสร้างเขื่อนในลาว ทำนิมคมอุตสาหกรรมในเมียนมา รถไฟฟ้าใต้ดินในมาเลเซีย แนวโน้มธุรกิจไม่ได้ใช้แรงงานเป็นหลักเหมือนที่ผ่านมา มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มมูลค่าของงาน ทีมฯเป็นบริษัทแรกที่มีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มาใช้ในการทำงาน และให้บริการลูกค้า

ขณะที่โอกาสงานในประเทศก็ยังมีอยู่มาก เช่นโครงการอีอีซี คมนาคม และพลังงาน โดยมีคู่แข่งไม่มาก เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ มี 6 ราย หรือเรื่องน้ำ มี 10 ราย บริษัทเป้าหมายเพิ่มงานของภาคเอกชนมากกว่า 25% ปัจจุบันเป็นโครงการภาครัฐเกือบ 50%

ทางด้านโครงสร้างรายได้ของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 1/2561 ส่วนใหญ่ประมาณ 27.29% มาจากธุรกิจกลุ่มทรัพยากรน้ำ รองลงมาเป็นกลุ่มอาคารและสาธารณูปโภค 20.80% กลุ่มพลังงาน 5% กลุ่มสิ่งแวดล้อม 4.15% กลุ่มคมนาคมและโลจิสติกส์ 42.69% และกลุ่มอื่นๆเช่นบริการ 0.07% โดยมีกำไรสุทธิ 21.82 ล้านบาทในไตรมาส 1/2561 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 1 ล้านบาท ในปี 2560 มีกำไรสุทธิ 98.70 ล้านบาท

ทั้งนี้ งานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ วันที่ 31 มี.ค. 2561 มีมูลค่างานคงเหลือประมาณ 3,473 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้าภาครัฐ มูลค่า 2,371 ล้านบาท ภาคเอกชน 733 ล้านบาท ลูกค้าต่างประเทศ 305 ล้านบาทและลูกค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 64 ล้านบาท บริษัทแบ่งงานออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ธุรกิจการศึกษา ออกแบบ และจัดทำรายงาน 2.ธุรกิจการบริหารโครงการและควบคุมการก่อสร้าง และ 3.ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

“ชวลิต”กล่าวทิ้งท้ายถึงการร่วมเดินทางไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา กองทุนต่างประเทศให้ความสนใจมาก แต่บริษัทไม่ได้จัดสรรหุ้นเสนอขายให้นักลงทุนต่างประเทศแต่อย่างใด
นักลงทุนเหล่านี้มีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย เรื่องการมีฐานนักลงทุนที่กว้าง บริษัทจดทะเบียนทำธุรกิจหลากหลาย และเข้าใจธุรกิจทีมฯแตกต่างจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

ทางด้าน “อิศรินทร์ ภัทรมัย” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สำนักบัญชีและการเงินองค์กร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) กล่าวว่า จากไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์ เพื่อนำชื่อเสียงของทีมฯไปเปิดให้กองทุนต่างๆได้รับรู้และเข้ามาลงทุนในหุ้น TEAMG ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยอยู่แล้ว ทีมฯเป็นหุ้นที่มีฐานมั่นคง มีโอกาสเติบโต เหมาะสำหรับการถือลงทุนระยะยาวเป็นหุ้นปันผล โดยมีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไร ปัจจุบันมีกำไรสะสมประมาณ 130 ล้านบาท

“สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม” ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TEAMG ได้โรดโชว์ในประเทศไทยจำนวน 16 จังหวัดและไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ ทำให้นักลงทุนเข้าใจในธุรกิจของบริษัท วิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน

“สมภพ กีระสุนทรพงษ์” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของTEAMG เปิดเผยว่า นักลงทุนให้การตอบรับที่ดี จากการเสนอขายหุ้น จำนวน 180 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ2.42 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท เนื่องจากราคาหุ้นมีความเหมาะสมกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต

“มีผู้จองซื้อหุ้นสูงถึงกว่า 5,500 ราย เป็นเพราะความมั่นใจต่อพื้นฐานของบริษัทและราคาขาย 2.42 บาท มีพี/อี 13.44 เท่า ทำให้เรามั่นใจว่าหุ้น TEAMG ในวันแรกจะมีกระแสตอบรับที่ดี “สมภพ กล่าว

อ่านประกอบ

TEAMG โชว์กำไรไตรมาสแรก 21.8 ล้าน โตกระฉูด 1,779%