SPALI ทยอยรับรู้กำไร 5.2 หมื่นล้านใน 5 ปี

“ประทีป” ตั้งเป้า “SPALI” อัตรารักษากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 19% คาดทยอยรับรู้กำไรจากการขายคอนโด-บ้านในมือ 140 โครงการภายใน 3-5 ปีกว่า 5.2 หมื่นล้าน ขณะที่ครึ่งแรกปีนี้ทำยอดขายได้แล้ว 1.77 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% มั่นใจกำไรทั้งปีสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน SPALI มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูงและแนวราบ ทั้งโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการขาย และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมแล้วกว่า 140 โครงการทั่วประเทศ คิดเป็น 9.04 หมื่นหน่วย มูลค่าโครงการรวม 2.76 แสนล้านบาท และหากขายได้ทั้งหมดภายใน 3-5 ปี จะทำให้บริษัททยอยรับรู้กำไรสุทธิรวมกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท

“เรามีโครงการในมือ 140 โครงการ บางโครงการสร้างเสร็จแล้ว บางโครงการกำลังก่อสร้าง คิดเป็นมูลค่า 2.76 แสนล้านบาท เมื่อหักเงินลงทุนค่าก่อสร้างเฉลี่ย 62-63% ต่อโครงการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมค่าใช้จ่ายภาษีแล้ว เราตั้งเป้าจะรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ได้ 19% ของรายได้ ดังนั้น หากโครงการเหล่านี้ขายได้หมดภายใน 3-5 ปี จะทำให้บริษัททยอยรับรู้กำไร 5.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกำไรดังกล่าวยังไม่รวมที่ดินใหม่ที่ SPALI จะซื้อมาพัฒนาระหว่างนี้”นายประทีประบุ

โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ SPLAI ที่รอการขายและอยู่ระหว่างก่อสร้าง

นายประทีป ยังกล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา SPALI เป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินการดีที่สุดในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งกำไรต่อยอดขาย กำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้น กำไรต่อทรัพย์สิน อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย และอัตรากำไรสุทธิต่อยอดขาย โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา SPALI เป็นบริษัทมีกำไรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียง LH ซึ่งมีรายได้จากส่วนอื่นๆด้วย เช่น รายได้จาก QH ,HMPRO และLH Bank

“SPALI มีหนี้สินต่อทุนต่ำมาก และเป็น 1 ใน 3 ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้เครดิตเรตติ้งระดับ “A” ทำให้มีต้นทุนดอกเบี้ยเพียง 2.5% ต่อปีเท่านั้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยต่อยอดขายน้อยมาก ปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์สิน 5.6 หมื่นล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 2.95 หมื่นล้านบาท โดยส่วนผู้ถือหุ้นมากกว่าหนี้สิน ขณะที่งบลงทุนที่ดินและก่อสร้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”นายประทีปกล่าว

นายประทีป กล่าวว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดระดับ 2-3 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดขายของ SPALI เติบโตได้อีกมาก ขณะที่ SPALI มีการซื้อที่ดินใหม่เพื่อนำมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แทบจะทุกอาทิตย์ ซึ่งนอกจากทำเลในกรุงเทพแล้ว ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนซื้อที่ดินในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ และมี 4 จังหวัดที่บริษัทมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 10 โครงการ ได้แก่ จ.ภูเก็ต ,ชลบุรี ,สงขลา และเชียงใหม่

นายประทีป ระบุว่า นโยบายของ SPALI ยังคงมุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับ 3-10 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับกลางถึงกลางค่อนข้างสูง โดยเน้นสร้างในทำเลที่ดีและตรงกับความความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม SPALI มีนโยบายพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับบนมากขึ้น เช่น ที่ผ่านมาบริษัทกำลังพัฒนาคอนโดหรูที่สาธร ซึ่งยูนิตที่แพงที่สุดราคาอยู่ที่ 200 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทมีแผนขยายไปยังตลาดต่างประเทศด้วย

ประทีป ตั้งมติธรรม

“ถ้าขาดทุนคือแพ้ และกำไรคือชนะ SPALI เป็นประเภท รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ทุกโครงการที่ทำมีกำไรทั้งหมด เพราะเราไม่ทำโครงการที่เสี่ยง เช่น เสี่ยงผิดกฎหมาย อาทิ ผังเมืองไม่ให้ เจาะทางเข้าทางออกไม่ได้ ถ้าใครเข้าไปทำก็แพ้น็อกยกแรกแล้ว การลงทุนแต่ละโครงการต้องกู้ไม่เยอะ ของเราบางโครงการเราไม่กู้เลย นอกจากนี้ เราจะเลือกทำเลดีกว่าในราคาที่ถูกกว่า และเรายังมีความได้เปรียบเชิงปริมาณทำให้ต้นทุนถูกลง มีการตั้งราคาเหมาะสม ที่สำคัญยิ่งเราทำเยอะ ก็ยิ่งแม่น เพราะเรามีสถิติ มีข้อมูล เราจึงรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”นายประทีปกล่าว

นายประทีป กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมียอดขายทะลุเป้าที่ระดับ 17,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขาย 13,344 ล้านบาท และทั้งปีมั่นใจว่าจะมียอดขาย 35,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกยอดขายคอนโดมีเนียมในกรุงเทพและปริมณฑลคิดเป็น 43% รองลงมาเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 32% เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบในต่างจังหวัด 20% และที่เหลืออีก 5% เป็นคอนโดในต่างจังหวัด

สำหรับปี 2561 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 35 โครงการ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 11 โครงการ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังเปิดอีก 24 โครงการ มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท

“เราคาดว่ากำไรในปีนี้จะมากกว่าปีที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์บางแห่งคาดไว้”นายประทีปกล่าว

****************
ติดตามข่าว หุ้นเด่น ประเด็นร้อน #HoonSmart #หุ้นสมาร์ท ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/HoonSmart
Line : https://line.me/R/ti/p/%40hoonsmart.com