GULF พลิกขาดทุน เจอพิษอัตราแลกเปลี่ยน 1.2 พันล.

กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ เผยไตรมาส 2/2561 มีกำไรจากการดำเนินงาน 794 ล้านบาท ไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยน เติบโตจากการเปิดโรงไฟฟ้า SPP และขายไฟฟ้าเพิ่ม บอร์ดมีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทบุกงานที่เวียดนาม

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2561 มีผลขาดทุนสุทธิ 438 ล้านบาท พลิกจากที่มีกำไรสุทธิ 686 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน และรวมครึ่งปีนี้มีกำไรสุทธิ 1,269 ล้านบาท ลดลงจำนวน 524 ล้านบาทหรือปรับตัวลงประมาณ 29% จากที่มีกำไรสุทธิ 1,793 ล้านบาทในช่วงเดียวกัน

สาเหตุที่บริษัทประสบปัญหาขาดทุนในไตรมาส 2 เนื่องจากมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจํานวน 1,232.9 ล้านบาท และ 281 ล้านบาทในงวดครึ่งปีนี้ ซึ่งเป็นการบันทึกรายการทางบัญชี หลักๆ เกิดจากการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวในสกุลเงินเหรียญสหรัฐให้เป็นเงินสกุลบาท จึงไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดและผลประกอบการที่แท้จริง

” บริษัทฯ มีกําไรสุทธิจากการดําเนินงานก่อนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% จากไตรมาส 1/2561 และพุ่งขึ้น 104% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน รวมครึ่งปีนี้มีกำไรจากการดำเนินงานจํานวน 1,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124 % จากระยะเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักที่ทำให้มีกำไร มาจากการทยอยเปิดดําเนินการของโรงไฟฟ้า SPP และปริมาณการขายไฟฟ้า ไอน้ำและน้ำเย็น ให้กับทั้งกฟผ. และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมของโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้น”บริษัทกัลฟ์ฯระบุ

ทางด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจัดตั้งบริษัท Gulf Vietnam Limited Liability Company ในประเทศเวียดนาม ตามแผนการขยายธุรกิจด้านพลังงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้องของบริษัทในประเทศเวียดนาม และเป็นการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศเวียดนามให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในเดือนเม.ย.และพ.ค. 2561 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามจํานวน 2 โครงการ