คุ้ย แคะ แกะ เกา : ความลังเลทำให้เสื่อม

โดย……รัสปูติน

www.HoonSmart.com “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 20 ส.ค. 2561

* ดัชนีดาวโจนส์กลับมาทำนิวไฮในรอบ 6 เดือน มีความหมายที่ไม่ปกติธรรมดา สำหรับตูข้าถือว่ามีนัยสำคัญมาก เนื่องจากเป็นระดับก่อนที่จะเกิดการถล่มทลายเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทำสถติใหม่ของวอลล์สตรีท แม้ว่าอาจะไม่เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย แต่สัญญาณที่ส่งมาชัดเจนคือ อย่าเอาเหตุผลอย่างเดียวมาชี้นำตลาด

* ข้อเท็จจริงของตลาดหุ้น 2 ประการที่สูเจ้าควรจำเอาไว้คือ 1) ตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนด้วยความโลภ มิใช่ความกลัว 2) แม้ว่าความไม่มีเหตุผลจะเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมตลาด แต่ท้ายสุดผลประกแบการและความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบยังมีความสำคัญในากรซื้อหรือขายมากตามปกติ

* มีคนบอกว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยามนี้ค่าพี/อีสูงเกินจำเป็น แต่ตูข้าขอย้ำว่า ถ้าเศรษฐกิจไทยเลว ก็ยังเลวน้อยกว่าหลายชาติเพื่อนบ้าน แล้วบริษัทบลูชิพจำนวนมากกำไรตามหรือต่ำกว่าคาด แต่ค่าพี/อียังต่ำกว่าตลาดรอบบ้านมากยกเว้นจีน ดังนั้นย่อมมีความเสี่ยงขาลงต่ำกว่า

* หนึ่งในหุ้นตัวอย่าง SAWAD พุ่งแรง 7% นิวไฮรอบ 3 เดือน รับโบรกฯ อัพราคาเป้า-ปรับประมาณกำไรปี 61-63 เพิ่ม 2-3% แต่มีข่าวดีกว่ารออยู่ 2 เด้ง เด้งแรก บริษัทมีนโยบายในการตั้งสำรองฯใหม่สำหรับทุกบริษัทในเครือจากเดิม “ไม่หักหลักประกัน” เป็น “หักหลักประกัน” ซึ่งจะส่งผลคือจะทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองฯของกลุ่มบริษัทจะค่อยๆ “ลดลง” ตั้งแต่ ไตรมาสสาม เนื่องจากจะเป็นการทยอยปรับใช้นโยบายในแต่ละประเภทของสินเชื่อ เด้งสอง การปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ในอนาคตจะทำภายใต้ BFIT ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ พรบ. นอนแบ็งก์ที่จะออกมาใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้การคิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกค้าในอนาคตลดต่ำลง ซึ่ง SAWAD จะไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยง

* ข่าวดีเล็กน้อยสำหรับแม่ ย่อมดีมากสำหรับ BFIT ที่คาดว่าได้ประโยชน์สูงสุดเพราะปัจจุบันไม่ได้หักหลักประกันอยู่แล้ว ซึ่งทำให้สัดส่วนสำรองต่อสำรองพึงกัน (ตามที่ธปท.กำหนด) อยู่ที่ 264% ส่วนบริษัทศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ (S14) และเงินสดทันใจจะมีสำรองฯที่ลดลงเช่นกัน กำไรดีขึ้น…และปล่อยเงินมากขึ้น

* ครึ่งปีแรกล้มเหลวสำหรับยักษ์ก่อสร้าง แต่หลายคนคาดว่าให้ลืมอดีตด่วน กำไรสุทธิไตรมาสสองที่หดตัว 19% ของ CK ไม่ใช่แย่ลง แต่เพราะปีก่อนมีกำไรพิเศษจากฐานรายได้ที่สูง การที่ทีรายงานกำไรสุทธิแค่ที่ 541 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาด เพราะลูกที่เป็น”ห่านไข่ทองคำ” อย่าง TTW จ่ายปันผลรับให้ราว 232 ล้านบาท บวกกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 37% จากไตรมาสเดิม เป็น 274 ล้านบาท มีแรงหนุนหลักจาก BEM ที่มีการบันทึกกำไรพิเศษการขายเงินลงทุน ยังเป็น”เชื้อดีตายยาก” ต่อไป

* หุ้นนี้ไม่มีสาละวัน BJC กำไรสุทธิไตรมาสสองทำได้ดีตามคาด หากไม่รวมกำไรขายเงินลงทุนและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสก่อน กำไรปกติในไตรมาสนี้จะทรงตัว ยังถือเป็นกำไรที่ดีและสวนทางกลุ่มที่มีกำไรลดลง Q-Q โดยรายได้ดี อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวดี และอัตราภาษีจ่ายทยอยลดลงแนวโน้มจะดีต่อและทำจุดสูงสุดของปีในไตรมาสสี่ น่าซื้อ ราคาเป้าหมาย 61.50 บาท

* ERW
วิ่ง 3 วันติด! บวกต่อกว่า 5% นิวไฮรอบ 2 เดือน ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น หลัง Q2/61 ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว กราฟกำลังสวย ERW คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10% มั่นใจ Q4/61 โตก้าวกระโดดรับไฮซีซั่น-เปิดโรงแรมใหม่อีก 4 แห่ง ขณะที่บริษัทยังคงโลกสวย ประมาณการรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) (ไม่รวมกลุ่ม HOP Inn) ของทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นราว 4% และคงเป้าอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในปีนี้อยู่ที่ 81-82% ราคาใต้ 8.00 บาทควรจับตาและเคาะขวาด่วน ….ความลังเลทำให้เนื่อง สูเจ้าจงจำไว้

—————————————————
ติดตามข่าว หุ้นเด่น ประเด็นร้อน #HoonSmart #หุ้นสมาร์ท ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/HoonSmart
Line : https://line.me/R/ti/p/%40hoonsmart.com