NWR มั่นใจปีนี้รายได้โต 5-10% พลิกกำไรชนะคดีคล่องด่าน

“เนาวรัตน์พัฒนาการ” มั่นใจพลิกกำไรและรายได้โต 5-10% เหตุงานในมือหนุนและบันทึกกำไรพิเศษชนะคดีคล่องด่าน พร้อมลุ้นประมูลงานใหม่ 15% จากมูลค่างานเกือบ 4 หมื่นล้าน

นายวิสุทธิ์ สุวรรณวิทย์เวช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจปีนี้จะพลิกมีกำไรจากปีที่ผ่านมาขาดทุนสุทธิจำนวน 202 ล้านบาท ซึ่งมาจากกำไรจากการดำเนินงานและบันทึกกำไรพิเศษจากชนะคดีคลองด่านจำนวน 228 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 3 นี้

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ คาดว่าในปีนี้รายได้รวมจะเติบโต 5-10% จากปีที่ผ่านมามีจำนวน 9,345 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกมีรายได้จำนวน 4,900 บาท โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 90% ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอาหาร

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จาก 44 โครงการ คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 40% และอยู่ระหว่างรอประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 3.99 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดหวังได้งานไม่ต่ำกว่า 15% โดยส่วนใหญ่เป็นงานปิโตรเคมี ที่บริษัทจะเข้าไปเป็น Sub-Contract งานโครงสร้าง Oil & Gas มูลค่า 1,000-6,000 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 4 ปี 2561 นี้และงาน Sub-Contract รถไฟฟ้ามูลค่าหลายพันล้านบาท และงานโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ มูลค่า 100-1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้มีโอกาสเข้าไปรับงานภาคเอกชน หลังจากโครงการสนับสนุนการลงทุนใน EEC และการส่งเสริม BOI ผลักดันให้เอกชนมีงาน ซึ่งงานภาคเอกชนปัจจุบันมีอยู่ใน Pipeline มูลค่ารวมราว 6.5 แสนล้านบาท

สำหรับโครงการลงทุนใหม่ๆ ในปีนี้ โดยเฉพาะงานเมกะโปรเจคต์ เช่น งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟรรางคู่และรถไฟความเร็วสูง บริษัทฯ ต้องประเมินศักยภาพก่อนตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่หรืออาจร่วมกับพันธมิตร ซึ่งมีโอกาสจะเสนอราคา รวมถึงงานของหน่วยราชการอื่น ๆ เช่น กรมทางหลวง บริษัทติดตามอย่างต่อเนื่อง

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะเริ่มมีกำไร หลังมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการมากขึ้นซึ่งจะมีรายได้ 700 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทั้งหมด 5 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ โดยโครงการเอสเพน คอนโด เฟส C มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งต่อเนื่องจากเฟส B

ส่วนธุรกิจอาหารปัจจุบันยังมีสัดส่วนรายได้ค่อนข้างน้อยไม่ถึง 1% เนื่องจากเพิ่งเริ่มดำเนินการโดยมีการขายอาหารแบบ ready to serve ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งที่ผ่านมาเสียงตอบรับค่อนข้างดี และมีแผนขยายไปยังตลาดต่างประเทศ ส่วนร้านอาหาร By bua ปัจจุบันมี 2 สาขา รวมทั้งอยู่ระหว่างพิจารณาเปิดร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนย่านสุขุมวิท