“บิ๊กตู่” ใจอ่อนอุ้มทีวีดิจิทัล เชียร์ BEC-RS-WORK-MONO

หุ้นทีวีดิจิทัลพุ่งยกแผง หลังคสช. จ่อใช้ม.44 ออก 3 มาตรการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล “สรรเสริญ” คาดออกคำสั่งได้ในเดือนพ.ค.นี้ โบรกฯ เชียร์ BEC-RS-WORK-MONO

ในช่วงบ่ายวันนี้ (24 เม.ย.) นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัล หลังมีข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจม.44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยให้ผู้รับใบอนุญาตฯยื่นขอพักชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯได้เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี

พร้อมทั้งให้ กสทช.สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน (MUX) ให้ผู้ประกอบการเป็นเงิน 50% ของค่าเช่าโครงข่ายฯ เป็นเวลา 24 เดือน และยังเปิดโอกาสให้มีการโอนกิจการทีวีดิจิทัลได้ แต่ไม่ให้ต่างชาติเป็นเจ้าของ

ส่งผลให้เมื่อปิดตลาดหุ้นภาคบ่าย หุ้นบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) ปิดที่ 67.25 บาท บวก 9.35% บริษัท บีอีซี เวิลด์ (BEC) ปิดที่ 11.60 บวก 8.41% บริษัท โมโน เทคโนโลยี (MONO) ปิดที่ 4.22 บวก 2.93% บริษัท อาร์เอส (RS) ปิดที่ 28.25 บาท บวก 2.73%

บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN) ปิดที่ 5.90 บาท บวก 1.72% บริษัท จีเอ็มเอ็ม (GRAMMY) ปิดที่ 9.15 บวก 1.67% บริษัท อสมท (MCOT) ปิดที่ 10.80 บาท บวก 0.93%

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงบ่ายวันนี้ ว่า ที่ประชุมคสช.ได้หารือมาตรการที่เหมาะสมเพื่อดูแลผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล และได้แยกเรื่องทีวีดิจิทัลออกจากกรณีผู้ประกอบการคลื่นความถี่ โดยยืนยันว่าประเทศต้องไม่เสียผลประโยชน์ จึงขอให้สังคมเข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร

“ตอนนี้ยังไม่ออกม.44 แต่จะมีความชัดเจนให้เร็วที่สุด ยกตัวอย่างง่ายๆเหมือนมีเค้กอยู่ก้อนเดียว แต่มีคนกินเค้ก 20-30 คน แล้วจะมีเค้กให้พอกินกันหรือไม่ ในเมื่อแหล่งสปอนเซอร์มีอยู่เท่าเดิม และอีกหน่อยช่องทีวีก็จะจอดำมืด นี่คือเป็นสิ่งที่รัฐบาลเข้ามาแก้ แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างเป็นไปตามความสมัครใจของเขาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อมีปัญหา รัฐบาลก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมมาแก้ไขให้ดีที่สุด”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ประชุมคสช.ได้สรุปแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 3 แนวทาง และคสช.ได้เห็นชอบในหลักการให้ออกมาตรา 44 ข่วยเหลือผู้ประกอบการดังกล่าว โดยพล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณารายละเอียดรอบคอบอีกครั้งว่าต้องเพิ่มเติมส่วนใดอีกหรือไม่ และให้ยกร่างคำสั่งมาให้พิจารณา

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ ได้แก่ 1.อนุญาตให้พักชำระหนี้ได้ 3 งวด จาก 5 งวดที่เหลือ (2561-2565) เพื่อให้มีสภาพคล่องในการทำธุรกิจ แต่ระหว่างพักชำระหนี้ 3 งวด จะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5% ต่อปี 2.กสทช.จะช่วยจ่ายค่าเช่าเครือข่ายให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลครึ่งหนึ่งหรือ 50% เป็นเวลา 2 ปี

และ3.อนุญาตให้โอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัลได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่สนใจได้เข้ามาดำเนินธุรกิจนี้ในอนาคต โดยจะต้องมีการหารือในรายละเอียดกับ กสทช.เป็นรายๆไป

“คสช.จะมีคำสั่งตามมาตรการดังกล่าวภายในเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากจะถึงกำหนดที่จะต้องชำระเงินงวดต่อไปในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ และจากการหารือกัน ทุกฝ่ายเห็นชอบแนวทางนี้ เพราะเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์ทั้งการแก้ปัญหาทีวีดิจิทัล และตอบโจทย์รัฐบาล เพราะไม่ได้เสียหายอะไร และช่วยเหลือตามความจำเป็น”พล.ท.สรรเสริญกล่าว

บล.หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBS ) มองว่า หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว คือ BEC ,RS , WORK และ MONO ซึ่งจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารรายใหญ่ๆ พบว่า WORK และ MONO ยังคงชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามกำหนด คือ วันที่ 23 พ.ค.นี้ ส่วนผู้บริหาร BEC และ RS อยู่ระหว่างพิจารณาว่าอาจจะขอพักชำระค่าใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการข้างต้นยังคงได้รับประโยชน์จากการลดค่า MUX ของกสทช.

“เราคาดว่า BEC อาจจะได้รับประโยชน์จากการลดค่า MUX และการโอนใบอนุญาตฯของ ช่อง 3 Family ซึ่งประสบภาวะขาดทุน โดยจะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิของ BEC อยู่ที่ 168 ล้านบาท และในกรณีที่ BEC ใช้สิทธิ์ลดค่า MUX เพียงอย่างเดียวโดยไม่โอนใบอนุญาต จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิ 110 ล้านบาท หุ้นที่ได้รับประโยชน์รองลงมา คือ WORK และ MONO ซึ่งคาดว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 22.6 ล้านบาท รวมถึง RS ที่คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท”บทวิเคราะห์ระบุ

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะเก็งกำไร WORK ซึ่งได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการที่ คสช. ใช้มาตรา 44 บรรเทาความเดือนร้อนของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล โดย WORK ถือเป็นหุ้นที่มี content แข็งแกร่งสุด ส่วนปัจจัยเทคนิคจะเห็นว่า ราคาที่ดีดขึ้นไปก่อนหน้านี้เริ่มหยุดลง และสร้างฐานที่แนวรับ 60 บาท ประกอบกับ Volume การเทรดเริ่มลดลง คาดว่ามีโอกาสหมดแรงขายไปแล้ว จึงมองเป็นโอกาสซื้อที่แนวรับเพื่อเล่น Rebound ระยะสั้น