19 บจ.สุดยอดติดดัชนียั่งยืนดาวโจนส์ “SCB-BTS” เข้าวินปี’61

บริษัทไทยเข้มแข็งมากขึ้นเทียบระดับสากล ดาวโจนส์ประกาศรายชื่อ 19 บจ.ติดดัชนีหุ้นยั่งยืน ปี 2561 ไม่รวมบริษัทไทยเบฟ รอบนี้ มี 2 บริษัทติดกลุ่มครั้งแรก SCB-BTS ส่วนกลุ่มปตท.รักษาตำแหน่งครบทุกราย เข้าตากองทุนทั่วโลก

ในปี 2561 บริษัทจดทะเบียนของไทยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)เป็นองค์กรระดับโลกในแต่ละธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 19 บริษัท ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB),บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT),บริษัทบ้านปู(BANPU),บริษัทปตท.(PTT),บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP),บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC),บริษัทไทยออยล์(TOP),บริษัท ไออาร์พีซี(IRPC), บริษัท ซีพี ออลล์(CPALL),บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF),บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป(TU), บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL),บริษัทปูนซิเมนต์ไทย(SCC),บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN),บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE),บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT)และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS)

สำหรับในปีนี้ มี 2 บริษัทที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นปีแรก คือ SCB-BTS

อาทิตย์ นันทวิทยา

นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI ประจำปี 2561 ในกลุ่มดัชนีโลก (World Index) และดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Index) หมวดธุรกิจธนาคาร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดด้านความยั่งยืน ที่คำนึงถึงการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Bank) ตามวิสัยทัศน์ของธนาคารจากบริบทในการดำเนินธุรกิจของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในด้านเทคโนโลยี สังคม สิ่งแวดล้อม และความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้เสีย

ธนาคารได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่หรือเรียกว่า SCBTransformation ภายใต้ยุทธศาสตร์กลับหัวตีลังกา (Going Upside Down) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์อย่างรวดเร็ว เพื่อนำพาองค์กรก้าวสู่การเป็นธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด

” ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก DJSI เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในองค์กรที่ช่วยกันพัฒนาแนวทางการดำเนินงานที่คำนึงถึงผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของธนาคาร” นายอาทิตย์ กล่าว

BTS คว้าที่ 1 ตลาดเกิดใหม่กลุ่มขนส่งแซง AOT

ส่วนบีทีเอสกรุ๊ป ครองอันดับ 1 กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในภาคการขนส่ง หลังจาก BTS ยื่นแบบสอบถามครั้งแรก ก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิก DJSI ทันที โดยอยู่ในอันดับ 4 จาก 64 บริษัท เหนือว่า AOT ที่อยู่ในอันดับ 10 และ เอชเค เอ็มทีอาร์ ที่ไม่ติดท็อปเท็น ส่วนเอฟวายไอ และบีอีเอ็มไม่ได้ยื่นแบบสอบถามในปีนี้

“BTS ได้รับคะแนน 76 คะแนน ถือว่าสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยที่ 60 คะแนน และคะแนนต่ำสุดของ DJSI กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ 51 คะแนนอยู่มาก บริษัททำคะแนนในแต่ละด้านได้ดีขึ้น ได้คะแนนสูงสุดในด้านอิทธิพลนโยบายและสิทธิมนุษยชน ยกเว้นด้านรายงานสิ่งแวดล้อม ซึ่งสาขานี้จะได้รับการปรับปรุงในการประเมินปีหน้า”บีทีเอสระบุ

นอกจากนี้ BTS ยังมีโอกาสสูงว่าจะได้เข้าร่วมในดัชนีความยั่งยืนตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ซึ่งจะประกาศผลในเดือนต.ค.2561

กลุ่มปตท.รักษาตำแหน่งครบ 5 บริษัท

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับเลือกเป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7และ ได้คะแนนสูงสุดเป็น Industry Leader ระดับโลกในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ประเภทธุรกิจขั้นต้นและธุรกิจครบวงจรต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

“ปตท.จะเป็นหนึ่งในกลไกในการขับเคลื่อนประเทศ เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจ เน้นความโปร่งใส สู่ความยั่งยืน เราพร้อมทุ่มเทเพื่อความสุขของทุกคน บนแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกด้าน พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน การเป็นสมาชิก DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนได้ เพราะดัชนีนี้เป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจระดับโลก และกองทุนต่างๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุน” นายชาญศิลป์ กล่าว

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าวว่า ปตท.สผ. ติด DJSI ระดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำในเอเชียที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงานที่สามารถแข่งขันได้ เทคโนโลยี และหัวใจสีเขียว

CPF เป็นบริษัทยั่งยืนระดับโลก 4 ปีซ้อน

วุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน CPF กล่าวว่า บริษัทฯยังคงได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI ประเภทตลาดเกิดใหม่ ประจำปี 2561 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตอกย้ำประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนระดับโลกครบทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี

“CPF เป็น 1 ใน 16 บริษัท จาก 104 บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารทั่วโลก (FOA Food Products) ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI สะท้อนถึงประสิทธิผลของการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน บนหลักปรัชญา “3 ประโยชน์” ที่มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อประเทศ ประชาชน และบริษัท” นายวุฒิชัยกล่าว

สำหรับหัวข้อที่ CPF ได้คะแนนสูงสุดจากการประเมิน ได้แก่ สุขภาพและโภชนาการ กลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเสี่ยงด้านน้ำ การเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม และการเปิดเผยข้อมูลด้านสังคม ขณะที่หัวข้อที่มีพัฒนาการอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ นโยบายและระบบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และกลยุทธ์ด้านภาษี

TU ได้คะแนนเต็ม”จรรยาบรรณธุรกิจ”

ธีรพงศ์ จันศิริ

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า บริษัทไ้ด้รับเลือกเข้า DJSI หมวดตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยได้คะแนนสูงสุด 100% ในหัวข้อจรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฎิบัติด้านแรงงาน ประเด็นที่มีนัยสำคัญ สุขภาพและโภชนาการ สิทธิมนุษยชน การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การบริหารจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤต บรรจุภัณฑ์ ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับน้ำ การใช้เทคโนโลยีด้านชีวภาพ และการสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูงขององค์กร

“ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่ความมุ่งมั่นเรื่องความยั่งยืนของเราได้รับการยอมรับ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ไทยยูเนี่ยนพร้อมทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและวางเรื่องความยั่งยืนเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ ไทยยูเนี่ยนและแบรนด์ทุกแบรนด์ของเราทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะอนาคตของเราขึ้นอยู่กับสิ่งนี้” นายธีรพงศ์กล่าว