วิจัยกสิกรฯ คาดสินเชื่อแบงก์ปีนี้ลุ้นโตเกิน 4.8-5.3%

“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” คาดแนวโน้มสินเชื่อแบงก์ 14 แห่งขยายตัวสูงกว่าประมาณการไว้กรอบ 4.8-5.3% ได้แรงหนุนสินเชื่อรายย่อยโต ยอดขายรถใหม่หนุนสินเชื่อเช่าซื้อ บัตรเครดิตรับฤดูกาล ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีเริ่มฟื้นตัว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มสินเชื่อปี 2561 ของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศมีโอกาสขยายตัวสูงกว่ากรอบประมาณการที่คาดไว้ที่ 4.8-5.3% โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากสินเชื่อรายย่อยที่คาดว่าจะโตดีในทุกองค์ประกอบ ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อที่ได้แรงหนุนจากยอดขายรถใหม่ที่สูงกว่าเป้าหมายเดิม สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่คงเพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วงท้ายปีอาจมีส่วนช่วยกระตุ้นสินเชื่อภาคธุรกิจและบรรเทาผลกระทบจากการชำระคืนหนี้รายใหญ่ลง

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภคและแนวโน้มสินเชื่อรายย่อย จากการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการปรับเพิ่มเกณฑ์การก ากับดูแลการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ เพื่อควบคุมความเสี่ยงเชิงระบบและภาวะการเก็งก าไรที่อาจไปสู่ปัญหาฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในเขตเมือง

สำหรับแนวโน้มเงินฝากในช่วงที่เหลือของปีเชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด ขณะที่ธนาคารยังให้ความส าคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนการเงินให้สอดคล้องกับความสามารถในการหารายได้และการเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงฐานลูกค้ารายใหม่ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระยะถัดไป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนส.ค.2561 จากเอกสารรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน (ธ.พ.1.1) โดยสินเชื่อเดือนส.ค.2561 ยังรักษาช่วงบวกต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 2.64 หมื่นล้านบาท เป็น 11.34 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.23% จากเดือนก่อน และ 5.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีเริ่มเป็นบวกเล็กน้อย แต่เนื่องจากยังมีการชำระคืนสินเชื่อภาคธุรกิจ ทำให้สินเชื่อสุทธิยังโตในกรอบจำกัด

อย่างไรก็ดี ด้วยแรงส่งเศรษฐกิจที่ดีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งในภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และรายได้เกษตรกร ประกอบกับการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลใช้จ่ายท้ายปี ท าให้คาดว่าภาพรวมสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีจะยังสามารถรักษาช่วงบวกได้อย่างต่อเนื่อง

ด้านภาพรวมเงินฝากเดือน ส.ค. 2561 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 2.53 หมื่นล้านบาท หรือ 0.21% เป็น 12.27 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับขนาดการลดลงในเดือนก่อนหน้า นำโดยเงินฝากในกลุ่ม CASA นอกจากนี้เมื่อเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดือน ส.ค. ปีก่อน อัตราเพิ่มของเงินฝากชะลอลงมาที่ 4.73% และ1.43% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนและสิ้นปีก่อนตามลำดับ

ส่วนสภาพคล่องของธนาคารตึงตัวขึ้น ตามการขยายตัวของสินเชื่อสุทธิที่สวนทางกับเงินฝากที่รวม ตราสารหนี้และเงินกู้ ยืม ทำให้สัดส่วนเงินให้ สินเชื่อรวมต่อเงินฝากที่รวมตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม
(LTD+Borrowing Ratio) ขยับขึ้นเป็น 87.63% จากระดับ 87.23% ในเดือนก่อนหน้า