TPLAS เชื่อครึ่งปีหลังธุรกิจถุงพลาสติกสดใสดีมานด์เพิ่ม

TPLAS มองธุรกิจถุงพลาสติกโค้งสุดท้ายปีสดใส เทศกาลวันหยุดปลายปี ความต้องการใช้ถุงเพิ่มขึ้น เลือกตั้งต้นปี 2562 ฐบวกราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น หนุนบริษัทได้รับอานิสงส์ความต้องการใช้สินค้า พร้อมเร่งขยาย Back Office -โรงงาน – เครื่องจักรใหม่ หนุนรายได้รวมในปี 2563 โตก้าวกระโดด

นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2561 ยังคงมีขยายตัวต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้ว พร้อมทั้งฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีเพราะช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคมากขึ้น และยังเป็นการสอดรับแผนการเลือกตั้งของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้าอีกด้วย

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการขยายอาคารโรงงานใหม่ และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก และปรับปรุงอาคารโรงงานเดิม รวมถึงสำนักงานบริษัทฯ เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากถุงพลาสติก และการขยายตลาดนั้น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทฯเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากปัจจุบันกำลังการผลิตถุงพลาสติก รวม 10,281.60 ตันต่อปี โดยแบ่งเป็น ถุงพลาสติกประมาณ 850 ตันต่อเดือน ในขณะที่กำลังการผลิตฟิล์มถนอมอาหาร (PVC) อยู่ที่ 1,411.20 ตันต่อปี หรือประมาณ 120 ตันต่อเดือนขึ้น โดยบริษัทฯจะนำเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน มาต่อยอดการผลิต

“บริษัทฯมั่นใจว่า หลังจากดำเนินการขยายอาคารโรงงานใหม่ และการติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบจากผลการดำเนินงานในปี 2560 ที่มีรายได้จากการขายรวม 530.96 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.09 ล้านบาท และงวด 6 เดือนปี 2561 มีรายได้จากการขายรวมที่ 273.14 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น”นายธีระชัย กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยจะเน้นเจาะในกลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการเก็บรักษาสินค้าและวัตถุดิบ ให้อยู่ได้นาน รวมถึงห้างสรรพสินค้า และโรงแรม ที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ

นายธีระชัย กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการตลาด ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายเปิดการค้าเสรี (AEC) เนื่องจากมองว่าในกลุ่มประเทศดังกล่าว ยังคงมีดีมานความต้องการใช้ ดังนั้นหากTPLAS สามารถเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่ม AEC ได้ ก็จะส่งผลให้บริษัทฯสามารถกระจายความสี่ยงของรายได้รวมได้ครบคลุมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากฐานลูกค้าในปัจจุบันเป็นกลุ่มลูกค้า ประเภท ซาปั๊ว กว่า 5,000 ราย โดยฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะกระจายไปทั่วทุกจังหวัด

“ภาพรวมอุตสาหกรรมถุงพลาสติก ในประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ในปี 2561 จากมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทในปี 2560 จากการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชาชนมีกำลังซื้อ รวมทั้งการเติบโตของร้านค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าต่างๆ ซึ่งขยายตัวและมีการก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ร้านค้าเหล่านี้จะมีความต้องการใช้ถุงพลาสติกที่เพิ่มขึ้น”นายธีระชัย กล่าว