ทิสโก้มองหุ้น Q4 สดใสก่อนเลือกตั้ง LTF-RMF จ่อซื้อไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล.

บล.ทิสโก้ ชี้สถิติพบหุ้นไทยมีโอกาส 70% ปรับตัวขึ้นก่อนเลือกตั้ง ผสมเงิน LTF & RMF ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4 คาดไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท หนุนดัชนีปรับตัวขึ้นในไตรมาส 4 ประมาณ 63% แนะหุ้นงบไตรมาส 3 ดี อิเศรษฐกิจในประเทศและได้ประโยชน์เลือกตั้ง

สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยมักตอบรับในเชิงบวกด้วยการปรับตัวขึ้น (Pre-election Rally) จากการศึกษาข้อมูลการเลือกตั้งของไทยในอดีต ตลาดหุ้นไทยมักปรับขึ้น (โอกาสราว 70%) และให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 3-6 เดือนล่วงหน้า (ปรับขึ้นเฉลี่ยราว 4-6%) ประกอบกับในไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นเดือนที่เม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เราคาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะมีเม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้ารวมไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะเป็นเม็ดเงิน LTF ราว 3.5 หมื่นล้านบาท และ RMF ราว 1.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นผลมีอิทธิพลหลักในการกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน โดยมีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) อยู่ที่ +0.65 อิงจากสถิตินับตั้งแต่ปี 2010 โอกาส SET Index ปรับตัวขึ้นในไตรมาส 4 มีอยู่ราว 63% โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +2.2%

อย่างไรก็ตามถึงแม้ปัจจัยเสี่ยงภายนอกยังอาจสร้างความผันผวนให้แก่ตลาดหุ้นไทยต่อไป และยังไม่มีสัญญาณไหลกลับของกระแสเงินทุนต่างประเทศ (ส่วนหนึ่งจากแรงกดดันด้านสงครามการค้า, การอ่อนค่าของสกุลเงินหลายประเทศในตลาดเกิดใหม่ และนโยบายการเงินในต่างประเทศที่ปรับเปลี่ยนไปในทางที่เข้มงวดขึ้น และบางส่วนอาจมาจากมุมมองของต่างชาติที่ยังไม่ไว้วางใจว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนอีกหรือไม่) แต่เรามองปัจจัยภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี, ความคืบหน้าโครงการลงทุนภาครัฐ และการเลือกตั้งปีหน้า จะทำให้ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่แนวโน้มการแกว่งซิกแซกขึ้นได้อีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ด้วยแรงขับเคลื่อนจากเม็ดเงินภายในประเทศเป็นสำคัญ

“เรายังคงเป้า SET Index ปลายปีนี้ขึ้นทดสอบระดับ 1800 และ 1850 จุด ตามลำดับ สำหรับหุ้นเด่นในเดือน ต.ค. จะเน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่างบไตรมาส 3 จะออกมาดี และได้ประโยชน์จากธีมการเลือกตั้ง แนะนำ ANAN, BBL, PLANB, PRM, ROJNA และ STEC ด้านแนวรับและแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1730-35, 1710-25 และ 1765-70, 1800-1810 จุด ตามลำดับ”บล.ทิสโก้ ระบุ