“ภัทธีรา” นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ผลักดันตลาดหลักทรัพย์ เร่งศึกษานำ “Price Band” เครื่องมือสกัดออเดอร์ AI ออกมาใช้ปีหน้า กระตุกความผันผวนราคา หยุดออร์เดอร์เริ่มต้นใหม่ ชี้ไม่กระทบราคาหุ้น
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ( สมาคมบล.) เปิดเผยกรณี โปรแกรมคำสั่งซื้อขายอัจฉริยะ AI ซื้อขายดักหน้านักลงทุน 3 วินาที 17 ออเดอร์ว่า สมาคมบล. ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้นำเสนอตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษานำเครื่องมือ Price Band ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งที่เร็วและแรงเกินไปมาใช้ เพื่อกระตุกราคาหุ้นและเริ่มต้นคำสั่งซื้อใหม่
สำหรับ Price Band จะไม่กระทบออเดอร์ของนักลงทุนที่ส่งคำสั่งเข้ามา แต่จะช่วยจับทิศทางหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่ราคาวิ่งเร็ว หรือแรงเกินไป ซึ่งราคาหุ้นมีช่องว่างราคา 30% หรือซิลลิ่ง-ฟลอร์ 30% การมี Price Band จะกระตุกราคาทำให้ราคาหยุดหรือไปต่อไม่ได้ สกัดออร์เดอร์จาก AI ที่ดักออร์เดอร์นักลงทุน คาดว่าตลาดศึกษาเสร็จและนำมาใช้ในปี 2562
นายกสมาคมฯ กล่าวว่า ต่างประเทศ มีการใช้ AI ถึง 70% ของการซื้อขาย ในลักษณะของการทำอาร์บิทราจ (Arbitrage) หรือการกินส่วนต่างระหว่างความไม่สมดุลของราคา แต่เมืองไทยจะใช้ AI กับการซื้อขายออนไลน์ หรือนักลงทุนที่นิยมซื้อขายด้วยสัญญาณทางเทคนิค ซึ่ง AI คิดให้หมด
“สมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่อง AI อยากเห็นความเป็นธรรมกับทุกราคา ทุกออเดอร์ เพราะตระหนักดีกว่าทุกออเดอร์ ต้องวิ่งไปที่ประตูเดียวกันคือที่ตลาดหลักทรัพย์ แม้ว่าขณะนี้ตลาดทุนไทย ใช้ AI แพร่หลายมากขึ้น ทุกคนมีโปรแกรมอัจฉริยะหมด เป็นโปรแกรมช่วยให้การคีย์ออเดอร์มีประสิทธิภาพ ดูระดับราคาบิด-ออฟเฟอร์ ช่วยโอกาสการเพิ่มออเดอร์ได้มากขึ้น ซึ่งไทยอยู่ในช่งการปรับตัว จึงเป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ ที่จะสร้างความเป็นธรรมไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำของราคาและออเดอร์” นายกสมาคม กล่าว
นายนเรศ งามอภิชน นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า เคยเสนอนายภากร ปิติธวัชชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ คนใหม่ ว่า มีการใช้ AI มากขึ้น และนักลงทุนรู้สึกลงทุนยากขึ้น เนื่องจาก ออร์เดอร์จาก AI เร็วและแรง กว่านักลงทุนทั่วไปที่ส่งคำสั่งซื้อขายได้ รวมไปถึง AI ที่ส่งคำสั่งซื้อขายโดยไม่มีหุ้นในมือง
“AI เป็นเครื่องมือที่รุนแรงและเร็ว เวลาลงแรง ๆ หรือขึ้นเร็ว ที่ผ่านมาจะเห็นหุ้นหลายตัวลงแรงและเร็ว โดยพื้นฐานตัวหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง ส่วนตัวผมไม่ได้รับผลกระทบจาก AI เพราะลงทุนยาวซึ่งช่วงนี้ไม่ได้ใกล้ชิดตลาด อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ขยับอะไร” นักลงทุนรายใหญ่ กล่าว
ผู้บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แห่งหนึ่ง กล่าวว่า การซื้อขายด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ Artificial intelligence (AI) หรือ Program Trade ที่สร้างความผันผวนให้ตลาดหลักทรัพย์จะเป็นระบบที่ใช้ปัจจัยทางเทคนิคในการตัดสินใจซื้อขาย ดังนั้นหากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเข้าไปควบคุมควรจะต้องไปศึกษาว่า AI แต่ละระบบมีโครงสร้างอย่างไร ใช้ตัวแปรอะไร การตั้งค่าตัวแปรสมเหตุสมผลหรือไม่ และมีผลให้ราคาผันผวนรุนแรงหรือไม่
ขณะที่นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า กองทุนที่ใช้ AI เข้ามาคัดเลือกหุ้นและลงทุนโดยเน้นปัจจัยพื้นฐาน เช่น กองทุนเปิดกรุงไทย เอไอ เบรน (KT-Brain) จะไม่สร้างผลกระทบต่อตลาด เนื่องจากจะทยอยซื้อขาย เพื่อไม่ทำให้ราคาหุ้นผันวน
“นอกจากนี้ กองทุน KT-Brain มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว ไม่ได้เก็งกำไรรายวัน เพราะฉะนั้นหากปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงกองทุนจะยังไม่ขาย หรือแม้แต่การขายหุ้นที่ราคาเต็มมูลค่าก็จะใช้เวลาขายหลายวัน เพราะหากเราเทขายก็จะทำให้ราคาหุ้นตกลงแรง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อกองทุนเช่นกัน” นายวีระ กล่าว
อ่านประกอบ