ความจริง ความคิด : ดอกเบี้ยน้อย ลงทุนอะไรดี

โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP

วันก่อนอ่านข่าวเจอ เห็นรัฐมนตรีคลังเตือนแบงค์ชาติเรื่องจะขึ้นดอกเบี้ยว่าให้พิจารณาขึ้นดอกเบี้ยในจังหวะเหมาะสม อย่าทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีปัญหา เช่น การขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป ก็จะส่งผลกระทบทำให้มีเงินทุนไหลเข้า ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยได้หวั่นสร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจ พร้อมย้ำมีอิสระในการตัดสินใจ แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อประเทศด้วย เห็นข่าวนี้แล้ว สงสัยจากเดิมที่คิดว่าแบงค์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้คงต้องเลื่อนไปปีหน้าแทน แล้วอย่างนี้เงินออมเราเอาไปไว้ไหนดี

สำหรับคนที่ชอบการออมเงินที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอคล้ายๆ ดอกเบี้ยแบงค์ แต่ขอให้ได้เยอะกว่า และไม่เสี่ยงแบบพวกแชร์ลูกโซ่ที่ให้ผลตอบแทนเว่อร์เกิน บางอันให้ผลตอบแทนมากถึง 6% ต่อเดือน บางอันให้น้อยหน่อย 2% ต่อเดือน แต่ก็ดูเว่อร์อยู่ดี เพราะเท่ากับให้ผลตอบแทนมากถึง 24%/ปี ถามว่าเป็นไปได้มั๊ย เล่นหุ้นก็ให้ได้ผลตอบแทน 24%/ปี แต่ก็ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนได้

การลงทุนที่ไม่เสี่ยงมาก แต่ให้ผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ถึงจะไม่เยอะขนาด 24%/ปี ก็พอจะมีเหมือนกัน อย่างเช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะของกองทุนประเภทสิทธิการเช่า หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน อย่างเช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund”: TFFIF) ที่จะเปิดขายในช่วง 12 – 19 ตุลาคมนี้ ในราคาหน่วยละ 10 บาท (ต้องซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท) โดยกองทุนจะนําเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อประชาชนทั่วไปในครั้งแรกไปลงทุนในสิทธิในรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากทางพิเศษ 2 เส้นทางเป็นระยะเวลา 30 ปี นับจากวันโอนสิทธิ โดยทางพิเศษดังกล่าวได้แก่

๐ ทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณอาจณรงค์และทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ ระยะทาง 28.2 กิโลเมตร

๐ ทางพิเศษบูรพาวิถี เริ่มต้นจากปลายทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณบางนาไปทางทิศตะวันออก สิ้นสุดจังหวัดชลบุรี ระยะทาง 55 กิโลเมตร

อัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ตามหนังสือชี้ชวน ประมาณการอัตราการปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนปีแรกอยู่ที่ 4.75-5.3% โดยคำนวณจากกระแสรายรับที่ยังไม่ตัดค่าใช้จ่าย และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แต่คาดว่ากองทุนจะจ่ายผลตอบแทนทุก 3 เดือน

หรือ ถ้าใครอยากมองหากองทุนโครงสร้างพื้นฐานตัวอื่นในตลาด ก็มี กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) หรือ กองทุน BTSGIF : กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท นอกจากผลตอบแทนที่ให้แล้ว ก็ยังมีสิทธิประโยชน์ด้านภาษี คือ เงินปันผลที่ได้รับจากกองทุน 10 ปีแรกยกเว้นภาษี

แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นการลงทุนในสิทธิในรายได้ของโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุน ดังนั้นเมื่อครบอายุสิทธิ มูลค่าของกองทุนก็จะกลายเป็นศูนย์แปลว่าจะมีการลดทุนเรื่อยๆตลอดอายุกองทุน

ดังนั้น เราจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนครับ หรือสำหรับบางคนที่ไม่ชอบกองทุนแบบนี้ ก็ยังมีหุ้นปันผลในตลาดอีกมากที่ให้ผลตอบแทน 4 – 6 % ต่อปี ยิ่งช่วงที่ตลาดหุ้นลงเยอะๆ ผลตอบแทนเงินปันผลที่ได้จะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย