คลุกวงในหุ้น : ถล่ม ECF จมดิน

โดย… สุนันท์ ศรีจันทรา

หุ้นบริษัท อีสโคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด(มหาชน)หรือ ECF กำลังถูกหางเลขจากนายกระทรวง จารุศิระ นักลงทุนรุ่นใหม่ในภาพ วี.ไอ.หรือนักลงทุนเน้นหุ้นคุณค่า ซึ่งกำลังถูกสื่อโจมตีในพฤติกรรมการลงทุน รวมทั้งการลงทุนในหุ้น ECF ด้วย

แม้ผู้บริหาร ECF จะออกมาปฏิเสธว่า นายกระทรวงไม่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น และเป็นผู้ติดต่อทางการค้ารายหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่อาจกอบกู้สถานการณ์เลวร้ายของหุ้น ECFได้ โดยเมื่อวานนี้(10 ต.ค.)ถูกถล่ม จนทรุดติดฟลอร์ ปิดที่ 6.20 บาท ลดลง 2.65 บาท หรือลดลง 29.94%

นายกระทรวงเป็นผู้ก่อกำเนิดโครงการซุปเปอร์เทรดดิ้ง ซึ่งจัดแข่งขันต่อเนื่องมาหลายปี อาจมีภาพเป็นนักลงทุนวี.ไอ. แต่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะวี.ไอ.จะไม่ซื้อขายหุ้นเก็งกำไรเป็นรายวัน

ส่วนนายกระทรวงจะอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวราคาหุ้น ECF หรือไม่ มีความสัมพันธ์ระดับใดกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ เป็นเรื่องที่ต้องสืบค้นหาความจริง

สำหรับราคาหุ้น ECF ที่รูดลงมากองกับพื้นนั้น คงเกิดจากข่าวนายกระทรวงเข้ามาพัวพันราคาหุ้น เมื่อถูกโจมตี นักลงทุนจึงชิงกันขายหุ้นลดความเสี่ยง

และประเด็นที่สำคัญคือราคาหุ้น ECF มีความเปราะบางอยู่แล้ว ราคาไม่ควรที่จะขยับขึ้นมายืนในระดับ 8-9 บาทด้วยซ้ำ

ECF เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและไม้ยางพารา และนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 1.25บาท จากพาร์ 0.25 บาท

กลุ่มสุขสวัสดิ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 5,922 ราย

ความเปราะบางของ ECF อยู่ที่ปัจจัยพื้นฐาน เพราะแม้ผลประกอบการจะมีกำไรต่อเนื่อง แต่การเติบโตของผลกำไรไม่โดดเด่น อัตราเงินปันผลตอบแทนไม่สูง แม้จะจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอก็ตาม ขณะที่ค่า พี/อี เรโชสูงมากคือประมาณ 135 เท่า

หุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชเกิน 100 เท่า ถ้าไม่ใช่หุ้นที่มีเจ้ามือคอยดูแล หรือคอยทำราคา จะต้องเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

แต่ผลประกอบการของ ECF มีลักษณะประคองตัวมากกว่า โดยปี 2560 มีกำไรสุทธิ 73.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 62.44 ล้านบาท และ 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.53 ล้านบาท

ไม่ต้องมีประเด็นนายกระทรวงเข้ามาเกี่ยวข้อง หุ้น ECF ก็พร้อมจะดิ่งลงอยู่แล้ว เพราะราคาหุ้นที่เป็นอยู่ สูงเกินไปที่ปัจจัยพื้นฐานจะรองรับ

แม้จะรูดลง 30% แล้ว ราคาก็ยังแพงอยู่

ประเด็นของนายกระทรวง เป็นเพียงตัวเร่งในการปรับฐานราคาหุ้น ECF ให้ยืนอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น

ราคาหุ้นที่ทรุดติดฟลอร์ ถือว่า ECF ได้ซึมซับรับข่าวนายกระทรวงไปเต็มอิ่มแล้ว ทิศทางราคาหุ้นต่อจากนี้ คงต้องพิจารณากันด้วยปัจจัยพื้นฐาน แนวโน้มการเติบโต และความคาดหวังผลประกอบการในอนาคต

แต่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ช่วงนี้ไม่มีอนาคตให้ซื้อ ส่วนผลประกอบการ ECF ย้อนหลังหลายปีก็ไม่โดดเด่น ขณะที่ค่าพี/อี เรโชสูงลิบ

แรงกระแทกจากข่าวนายกระทรวงปิดฉากลงแล้ว แต่การปรับฐานหุ้น ECF อาจยังไม่จบ