U ลั่นจ่ายปันผล ดึงดูดสถาบัน เล็งตั้งกอง REIT ในยุโรป

ผู้ถือหุ้น U ไฟเขียวลดทุน รวมพาร์ ล้างขาดทุนสะสม 9,510 ล้านบาท “คีรี”ยันปีนี้กำไรเกิน 20 ล้านบาท จ่ายปันผลทันที ดึงสถาบันไทย-ตปท.เข้าลงทุน วางแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุน (REIT)ในยุโรป นำโรงแรมของเครือเวียนนา เฮ้าส์ เข้ากอง หาเงินลดหนี้ แก้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2561 ที่ผ่านมา บริษัทยู ซิตี้ (U) ได้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2561 โดยมีมติอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนเป็น 1,403,129,722,617 บาท และรวมมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) จากหุ้นละ 1 บาท เป็น 100 บาท

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัทยู ซิตี้ (U) เปิดเผยว่า กระบวนการรวมพาร์ เป็น 100 บาท จะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ ทำให้ราคาหุ้น U เปลี่ยนเป็น 3-4 บาท จากเดิมอยู่ที่ 0.03-0.04 บาท และในช่วงปลายเดือนธ.ค. จะมีการลดพาร์เป็น 3.20 บาท/หุ้น การตัดสินใจรวมพาร์ลดทุน เพราะมีความตั้งใจพลิกฟื้นบริษัทกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และการที่ราคาหุ้นไม่เป็นเศษสตางค์ สร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนต่าง ๆ และการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 9.51 พันล้านบาทให้หมดไป ทำให้บริษัทสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทุกปี หลังจากที่บริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผลมานาน

“เป้าหมายของผม อยากให้ U จ่ายปันผลได้ทุกปี ถ้าไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ ก็แสดงว่าบริษัทยังไม่แข็งแรง ถ้าปีนี้ U มีกำไรเกิน 20 ล้านบาท ก็จะจ่ายเงินปันผลได้”นายคีรี กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงาน ทีมผู้บริหารชุดปัจจุบันมีความพยายามอย่างมากในการพลิกฟื้นบริษัท ทั้งจากการลงทุนใหม่ ๆ และการลงทุนในธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและและรับจ้างบริหารโรงแรม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมร่วมกับบริษัทแสนสิริ (SIRI) และการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ที่พญาไท สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนั้น หากบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่จะเปิดประมูลในวันที่ 12 พ.ย. 2561 ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อ U ด้วยเช่นกัน เพราะจะมีการลงทุนโครงการต่าง ๆ บริเวณรอบแนวรถไฟความเร็วสูงด้วย ซึ่งทาง BTS จะมีการเสนอแผนการลงทุนให้กับ U ร่วมลงทุนด้วย

ส่วนการแก้ไขสัญญาของที่ดินร้อยชักสามนั้น คาดว่าจะลงนามสัญญาใหม่ไม่เกินสิ้นปี 2561 ซึ่งคงจะไม่พัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 6-7 ดาว เพราะต้องใช้เงินลงทุนมูลค่าสูง

นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร U กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น U ไม่เป็นเศษสตางค์ จะทำให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศสนใจหุ้นมากขึ้น และจะสามารถเข้ามาลงทุนได้ เพราะราคาไม่หวี่ยงเกิน 10% ต่อวัน ซึ่งเป็นระดับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่เป็นนโยบายของนักลงทุนสถาบันและกองทุนต่าง ๆ ที่จะเข้าลงทุนในหุ้นที่เหวี่ยงไม่เกิน 10% ต่อวัน ปัจจุบันราคาที่เป็นเศษสตางค์อยู่มีการเหวี่ยงเกิน 20% ต่อวัน ทำให้ไม่มีนักลงทุนสถาบันอยากเข้ามาลงทุน

ทางด้านธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมที่พัฒนาและบริหารเองทั้งหมดมี 31 แห่ง จำนวน 5,200 ห้อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดโรงแรมใหม่ในเยอรมนี และในต้นปี 2562 จะเปิดโรงแรมใหม่ในกรุงวอซอว์ ประเทศโปแลนด์ นอกจากนี้บริษัทยังมีการเซ็นสัญญารับจ้างบริหารโรงแรมทั้งในและต่างประเทศแล้ว 30 แห่ง จำนวน 15,000 ห้อง ซึ่งจะทยอยเข้าไปบริหารในช่วงปี 2562-2564 โดยมีโรงแรมที่บริหารเองและรับจ้างบริหารรวมทั้งสิ้น 61 แห่ง จำนวน 9,700 ห้อง

สำหรับธุรกิจพัฒนาและขายคอนโดมิเนียมร่วมกับบริษัทแสนสิริ มีโครงการที่พัฒนาและขายแล้ว 27 โครงการ ปัจจุบันเริ่มมีการรับรู้กำไรเข้ามาแล้ว

นางสาวปิยพร กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุน (REIT) ในยุโรป โดยนำสินทรัพย์บางส่วนที่เป็นโรงแรมของเครือเวียนนา เฮ้าส์ ที่บริษัทเข้าลงทุนนำจัดตั้งกองรีท เพื่อนำเงินมาใช้ชำระหนี้คืนหนี้ของกลุ่มเวียนนา เฮ้าส์ และนำเงินไปรองรับการลงทุนอื่นๆ ปัจจุบันบริษัทจะต้องแก้ปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่กลุ่มเวียนนา เฮ้าส์ ได้มีการกู้เงินเป็นสกุลเงินอื่น ๆ ที่ไม่ไช่สกุลเงินยูโร เพื่อลดการขาดทุนของอัตราแลกเปลี่ยน