โดย…สุนันท์ ศรีจันทรา
หลังจากราคาหุ้นขยับอย่างร้อนแรง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาตาผิดปกติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงสอบถามไปยังบริษัท ยูเรกา ดีไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA ก่อนประกาศเป็นหุ้นที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคมถึง23 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งอาจทำให้หุ้นขนาดเล็กตัวนี้สงบลง
การดำเนินมาตรการดับความร้อนแรงหุ้น UREKA เกิดขึ้นทันที เมื่อราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ ราคาพุ่งขึ้นปิดที่ 1.68 บาท เพิ่มขึ้น 22 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 15.07% มูลค่าซื้อขาย 205.54 ล้านบาท โดยไม่มีข่าวสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะฝ่ายบริหารบริษัทฯ ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใดที่มีนัยสำคัญต่อราคาหุ้น
ราคาหุ้น UREKA ขยับขึ้นมาอย่างน่าสังเกตมาหลายสัปดาห์แล้ว ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นขึ้น โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคายังยืนอยู่ที่ 69 สตางค์ แต่ถูกลากขึ้นมาต่อเนื่อง และภายในเวลา 1 เดือนเศษ ทะยานขึ้นมา 99 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 130% ซึ่งอาจได้รับแรงกระตุ้นจากผลประกอบการครึ่งปีแรกที่มีกำไร
UREKA เป็นบริษัทผู้ให้บริการออกแบบและผลิตเครื่องจักร สำหรับการประกอบและทดสอบชิ้นส่วนยานยนต์ เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 โดยนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปราคา 2.25 บาท จากพาร์ 50 สตางค์ ปัจจุบันปรับพาร์เหลือ 25 สตางค์
หลังนำหุ้นเข้าซื้อขาย ผลประกอบการ UREKA ย่ำแย่ ขาดทุนต่อเนื่องหลายปี แต่ 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 14.93 ล้านบาท ขณะที่ระยะเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 41.90 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ค่าพี/อี เรโชยังสูงลิ่ว โดยอยู่ที่ 103 เท่า
ผู้ถือหุ้นรายย่อย UREKA มีจำนวนทั้งสิ้น 2,190 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 54.94% ของทุนจดทะเบียน โดยกลุ่มราชพลสิทธิ์เป็นถือหุ้นใหญ่
สิ่งที่สะท้อนถึงความหวือหวาของหุ้นตัวนี้ คือ ราคาหุ้น ซึ่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ช่องว่างการขึ้นลงของราคาหุ้นถ่างกันมาก โดยเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 1.89บาท และต่ำสุดที่ 48 สตางค์ เมื่อเทียบจากจุดต่ำสุดกับจุดสูงสุด เพิ่มขึ้นเกือบ 300%
UREKA จึงไม่ใช่หุ้นธรรมดา
ตลาดหลักทรัพย์อาจเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของ UREKA อยู่แล้ว เมื่อราคาถูกกระชากขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงดำเนินมาตรการ เทรดดิ้ง อะเลิร์ททันที ซึ่งจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่เปิดการซื้อขายในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยนักเก็งกำไรควรระมัดระวังตัวขึ้น หรื่อชิงขายทำกำไร
เว้นแต่จะมีนักลงทุนรายใหญ่พยุงราคาไว้ เพื่อไม่ให้เสียศูนย์ เพราะหากปล่อยให้ราคารูด อาจเป็นแรงกระตันให้นักลงทุนทิ้งหุ้น จนราคาเกิดความผันผวน ขณะที่นักลงทุนขาใหญ่ยังไม่ได้ “ออกของ”
จากหุ้นที่ซื้อขายวันละไม่กี่แสนบาท ราคาเคลื่อนไหวอยู่แถว 50 สตางค์เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน กลายเป็นหุ้นที่เคาะสนั่นวันละหลายร้อยล้านบาท ราคาขยับขึ้นมาถึง 1.68 บาท เป็นธรรมที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องจับตาเป็นพิเศษ อย่างน้อยต้องสะกิดให้นักลงทุนไม่หลงระเริงแห่เข้าไปเก็งกำไร
เพราะเมื่อไม่มีข่าวดี และปัจจัยสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม หุ้น UREKA ที่ร้อนจัดขึ้นมา จึงเป็นอันตรายต่อนักลงทุน ราคาที่ลากขึ้นไป ไม่รู้ว่า จะถูกทุบลงมาเมื่อไหร่
ตลาดหลักทรัพย์จึงต้องส่งสัญญาเตือน อย่าผลีผลามเข้าไปลุย UREKA