BGRIM ปลื้ม นักลงทุนแห่จองซื้อหุ้นกู้สูงกว่า 2 เท่า ของจำนวน 9,000 ล้านบาท บริษัทตัดสินใจเพิ่มเป็น 9,700 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่น แบ่งขาย 4 รุ่น อายุ 2 ปีจ่ายดอกเบี้ย 2.81% 10 ปี แจก 4.36%
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก หลังจากไอพีโอ โดยนักลงทุนมียอดจองซื้อเกินกว่า 2 เท่า ของจำนวน เสนอขาย 9,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทตัดสินใจเพิ่มยอดการขายเป็น 9,700 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่น การตอบรับที่ดีจากความแข็งแกร่งของแผนธุรกิจที่มีอนาคตสดใส และคุ้มค่าแก่การลงทุนรวมถึงอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม บริษัทพร้อมนำเงินรองรับแผนการลงทุนในอนาคตและรีไฟแนนซ์เงินกู้จากสถาบันการเงิน
” ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ท่ามกลางสภาวะตลาดที่อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังคงได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ” นางปรียนาถกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ชำระหนี้เดิมหรือการลงทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เชื่อมั่นความสำเร็จครั้งนี้เป็นการสร้างฐานนักลงทุน ทั้งผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ในอนาคต การสนับสนุนจากผู้ลงทุนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบริษัท ทั้งด้านการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงและยาวนานในธุรกิจ ความเป็นผู้นำด้านการ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงมายาวนานกว่า 140 ปี และจะเติบโตคู่กับประเทศไทยต่อไป
สำหรับหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2561 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด(II&HNW) ในวันที่ 17-18 ต.ค. และออกหุ้นกู้ในวันที่ 19 ต.ค.2561 แบ่งเป็นจำนวน 4 ชุด อายุหุ้นกู้ 2 ปี มูลค่า 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.81% ต่อปี อายุหุ้นกู้ 3 ปี มูลค่า 2,700 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.12 ต่อปี อายุหุ้นกู้ 5 ปี มูลค่า 1,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.49% ต่อปี และ อายุหุ้นกู้ 10 ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.36% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน (วันที่ 19 เม.ย. และ 19 ต.ค. ของแต่ละปี)
หุ้นกู้ทั้ง 4 ชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A-“ แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง